ตร.รู้ตัวเจ้าของจยย.คนแรกแล้ว ล็อค4เป้าโยงสังหาร‘กำนันเตี้ย’ สามีขอชรบ.คุ้มกัน
4 กุมภาพันธ์ 2563 ความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกยิงนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี หรือ “กำนันเตี้ย” กำนันตำบลผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 63 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แฉปมมือปืนบุกยิงหัว'กำนันหญิง'นักพัฒนาคนดังหนองคายดับคาบ้านพัก)
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2563) พบรถจักรยานยนต์(จยย.) ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกนำไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ท้ายหมู่บ้านสระคลอง หมู่ 3 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดมาไว้ที่ สภ.สังคม โดยในวันนี้(4 กุมภาพันธ์ 2563) ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามหาคนที่ครอบครองรถเป็นคนสุดท้าย เพื่อจะเชื่อมโยงหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวเจ้าของรถจักรยานยนต์คนแรกแล้ว ส่วนเป้าที่ตำรวจตั้งไว้ 3-4 เป้า จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประกบติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ในส่วนของพนักงานสอบสวน เมื่อวานนี้(3 กุมภาพันธ์ 2563) ได้มีการสอบปากคำญาติและผู้อยู่ใกล้ชิดในเหตุการณ์เพิ่มอีก 3 ปาก กับที่สอบวันแรกไปแล้ว 4 ปากรวมเป็นทั้งหมด 7 ปาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นญาติและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนผู้ที่คาดว่าจะมีการเกี่ยวพันทั้งเรื่องกรณีพิพาทต่างๆนั้น หากมีอะไรที่เชื่อมโยงไปถึง ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามาสอบปากคำ
ส่วนที่บ้านของ “กำนันเตี้ย” ซึ่งยังคงมีการจัดงานศพอยู่ โลงศพของกำนันยังคงตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่กลางบ้าน เมื่อมีข่าวพบหลักฐานสำคัญของคดีอย่างรถจักรยานยนต์และหมวกกันน็อค ชาวบ้านต่างพากันตื่นเต้นยินดี โดยนายพิเดช วงค์ศิริ สามีของกำนันเตี้ย ได้จุดธูปและเคาะโลงศพกำนันเตี้ยบอกกล่าวข่าวดีนี้ให้กำนันเตี้ยรับรู้ พร้อมขอให้กำนันเตี้ยช่วยตำรวจจับผู้ร้ายที่ก่อเหตุได้เร็วๆนี้ด้วย
นายพิเดช กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทราบข่าว โดยตัวรถจักรยานยนต์ยังข้องใจอยู่ว่าจะเป็นคันเดียวกันหรือไม่ แต่ส่วนหมวกกันน็อคค่อนข้างมั่นใจว่าใช่ของคนร้าย อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะขณะนี้ตนยังไม่สบายใจ มีความกระวนกระวาย และไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเอง กลัวว่าคนร้ายเมื่อฆ่าภรรยาแล้ว จะมาฆ่าตัวเองด้วย ตอนนี้ได้ขอกำลัง ชรบ.6 นาย มาช่วยดูแลความปลอดภัย มากินนอนอยู่ที่บ้านด้วย
“หากเจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ตนอยากขอให้มาขอขมาภรรยาก่อน และขอให้ได้รับโทษประหารชีวิต การทำรุนแรงกับผู้หญิงแบบนี้ถือว่าโหดร้ายมาก หากไม่พอใจอะไรอยากตบตีสั่งสอนก็ไม่ว่าอะไร แต่ทำไมต้องทำทารุณถึงขั้นฆ่ากันตายด้วย” นายพิเดช กล่าว
ด้าน น.ส.ศศิภา วงค์ศิริ ลูกสาวกำนันเตี้ย กล่าวว่า ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าก่อนเกิดเหตุมีชายคนหนึ่งสวมหมวกไอ้โม่งแล้วทับด้วยหมวกกันน็อคขี่รถจักรยานยนต์ มาสอบถามเส้นทางว่าถนนเส้นนี้ไปไหนได้บ้าง สอบถามว่าในละแวกนี้มีบ่อน้ำที่ตกปลาที่เจ้าของที่ไม่หวงหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านบอกว่ามีลักษณะตรงกันหรือใกล้เคียงกับคนร้ายที่อยู่ในกล้องวงจรปิด แต่ไม่เห็นหน้า พูดภาษากลาง พูดไทยชัด ส่วนรถจักรยานยนต์ก็คุ้นตาเหมือนเคยเห็นคนแถวบ้านขับ และเคยเห็นคนในหมู่บ้านใกล้เคียงเคยขี่มาซื้อของที่บ้าน อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ ขณะนี้รู้สึกดีใจที่เรื่องราวเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว อยากเจอคนร้ายอยากถามถึงสาเหตุที่ทำกับแม่ของตนเช่นนี้ และจะยังไม่เผาศพแม่จนกว่าจะจับคนร้ายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี