กรมปศุสัตว์คุมเข้ม
พื้นที่ตามแนวชายแดน
สกัดไข้หวัดนกลุกลาม
เข้ามาในประเทศไทย
ปศุสัตว์เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อไข้หวัดนก ชะลอนำเข้าสัตว์ปีก-ซาก กำชับเจ้าหน้าที่เร่งป้องกันโรควอนประชาชน-เกษตรกร แจ้งข้อมูลหากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติ ยันไข้หวัดหมูไม่ใช่โรคระบาดสัตว์
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงกรณีมีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสายพันธุ์ H5N1 ระบาดในฟาร์มไก่ที่เมืองเชาหยาง มณฑลหูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จีน กำจัดไก่ไปแล้วกว่า17,000 ตัว กรมปศุสัตว์จึงเฝ้าระวังและป้องกันโรคที่อาจแพร่ระบาดเข้ามายังประเทศไทย อย่างเข้มงวด โดยยังคงชะลอมาตรการนำเข้าสัตว์ปีก ซากสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกจากจีน
พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดทุกแห่งเพิ่มมาตรการควบคุมป้องกันโรคระบาดในสัตว์ปีก จัดเจ้าหน้าที่และเครือข่ายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกหลังคาเรือน พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยง หากพบว่ามีสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ หรือต้องสงสัย ให้แจ้งปศุสัตว์อำเภอ เพื่อดำเนินการตามแผนเฝ้าระวังควบคุมโรคที่กำหนดไว้ โดยให้คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนกในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ จัดประชุมติดตามสถานการณ์และวางแผนการควบคุมโรคทันที
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบกรมปศุสัตว์ ในการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีก ต้องมีผลการตรวจรับรองโรคระบาด และใบอนุญาตการเคลื่อนย้ายสัตว์ทุกครั้ง หากพบหรือสงสัยว่ามีโรคในพื้นที่ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกเข้าออกตามท่าอากาศยานและแนวชายแดน ให้เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ตั้งจุดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณจุดผ่านแดน ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่พี่น้องเกษตรกร ทั้งด้านการเลี้ยง การจัดการ และการป้องกันโรคในสัตว์ปีก ขอความร่วมมือให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกเพิ่มความเข้มงวดระบบป้องกันโรคของฟาร์ม
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่อว่า การป้องกันที่ดีถือเป็นหัวใจของความสำเร็จที่ทำให้ไทยปลอดจากไข้หวัดนกมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี จากการที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกทั่วประเทศ จัดการระบบความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเคร่งครัด การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณโดยรอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มเข้มงวด เรื่องระบบความปลอดภัยภายในฟาร์ม ควบคุมการเข้าออกฟาร์ม ให้ฉีดพ่นยานพาหนะทุกคัน เมื่อได้รับแจ้งหรือพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ หรือมีอาการต้องสงสัยคล้ายอาการโรคไข้หวัดนก เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการควบคุมโรคทันที รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
“ให้เฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด อีกทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารอย่างเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทันที เพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร.096-301-1946 หรือแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวถึงกรณีที่กรมควบคุมโรคไต้หวัน ชี้แจงถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A/H1N1 ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่ในคนที่ระบาดตามฤดูกาลทั่วโลกทุกปี ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า Swine Flu หรือไข้หวัดหมู ว่า ไวรัสดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ที่มีการผสมข้ามระหว่างสายพันธุ์ที่พบในคน ไก่ และหมู พบครั้งแรกในปี 2552 หรือ ค.ศ.2009 ในทวีปอเมริกาเหนือ ได้แก่ เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงระบาดไปทั่วโลก โดยระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว แต่สายพันธุ์ดังกล่าวไม่เคยพบในหมูทั่วไป จึงไม่ติดต่อโดยการสัมผัสหรือกินเนื้อหมู ต่อมาองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เรียกตรงกันว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ A
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ขอให้คนไทยอย่าตระหนกว่าบริโภคเนื้อหมูแล้วมีความเสี่ยงจะติดเชื้อไวรัสดังกล่าว เพราะการผลิตเนื้อสัตว์ของไทยได้มาตรฐานสากล และมีความปลอดภัยในระดับสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข่าวเท็จที่สร้างความสับสนต่อสังคมวงกว้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี