เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างบนเกาะสมุย ได้มารวมตัวกันจำนวนกว่า 60 ราย รวมตัวกันเพื่อเข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมผ่านว่าที่ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. ได้เข้ามาจับกุมแรงงานต่างด้าวในข้อหาทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ด้วยการให้เหตุผลการจับกุมจากคำว่า “กรรมกร”
ทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างมีความเดือดร้อนจากข้อกฏหมายว่าด้วยอาชีพกรรมกรของแรงงานต่างด้าว เนื่องจากการทำงานทุกอย่างในการก่อสร้างต้องใช้แรงงานต่างด้าวในการทำงานก่ออิฐ งานฉาบปูน งานปูกระเบื้อง งานทาสี งานประกอบแบบคาน เทพื้น เสา งานเชื่อมโครงหลังคา เป็นต้น ซึ่งงานดังกล่าวล้วนแล้วแต่จะต้องใช้แรงงานในการทำงานทั้งสิ้น
เรื่องดังกล่าวว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ได้มอบให้นายนายปริญญา อุดมศักดิ์ ปลัดอำเภอกลุ่มบริหารงานปกครอง ได้เป็นตัวแทนนายอำเภอเกาะสมุย และศูนย์ดำรงธรรมได้มาพบกับกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างภายในห้องประชุม เพื่อรับฟังปัญหาการร้องเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่จาก กอ.รมน.ภาค4 พื้นที่เกาะสมุย จัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เกาะสมุย เข้าร่วมรับฟังปัญหา เพื่อจะนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการอาชีพรับเหมาก่อสร้างเรียกร้องมีทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ 1.ต้องการให้ทางภาครัฐแก้ไขบทบัญญัติกฏหมายในรายละเอียดเกี่ยวกับการประกอบอาชีพกรรมกรของแรงงานต่างด้าวในงานก่อสร้างให้สอดคล้องกับการทำงานก่อสร้าง 2.ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการกระบวดการตามกฏหมายในการจับกุมเป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบอาชีพในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน 3.ให้ผู้เกี่ยวข้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่มาเรียกเก็บเงินหรือปรับเงินนอกระบบให้ถึงที่สุด เพราะการจับกุมเป็นเพียงรายละเอียดของการทำงานเท่านั้น หากซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือการค้ามนุษย์ ทางผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฏหมายตลอดมา 4.แรงงานช่างฝีมือไทยไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง 5.ในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากเพียงเพื่อนำแรงงานมาทำงาน ขุด แบก หาม ทำให้เกิดต้นทุนสูงไม่คุ้มกับการลงทุน ประกอบกับแรงงานเองมีความสามารถในการทำงานเชิงช่างที่ต้องการพัฒนาฝีมือของแรงงานเองด้วย
ด้านนายปรีชา เกตุสุวรรณ ตัวแทนผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ที่พวกตนมารวมตัวและยื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีเจ้าหน้าที่มาจากปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เข้ามาตรวจไซด์งานก่อสร้างพร้อมถ่ายรูปเก็บไว้ และแจ้งว่าคนงานต่างด้าวได้ทำงานเกี่ยวกับช่างฝีมือเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย แรงงานต่างด้าวทำได้แค่กรรมกรไม่สามารถก่ออิฐ ฉาบปูนได้ ซึ่งกลุ่มผู้รับเหมาต่างสงสัยว่างานก่อสร้างจะให้กรรมกรแบกปูนอย่างเดียวก็ไม่ได้ คนเรามันจะต้องพัฒนาฝีมือขึ้นไม่ใช่ว่าจะเป็นกรรมกรตลอดไป ปัญหาดังกล่าวถ้าแรงงานไทยมีเพียงพอต่อความต้องการ ผู้รับเหมาก่อสร้างก็จะไม่เกิดปัญหานี้
นายปรีชา กล่าวว่า แรงงานทั้งหมดพวกตนนำเข้ามาถูกต้องตามกฏหมาย ก็ขอให้มีการพิจารณาหยุดการจับกุมในข้อหาทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ก่อนได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็จะต้องหยุดงานกันหมด ทุกคนก็จะได้รับความเดือดร้อน การที่มาเรียกร้องก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากหน่วยงานรัฐที่มากเกินสิ่งที่จะทำได้ ผู้รับเหมาเพียงแค่อยากทำงาน อยากทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เกาะสมุยให้ดีขึ้น ไม่ใช่มาโดนช่องโหว่ของกฏหมายนิดเดียวมาทำให้เศรษฐกิจแย่ลงมากกว่านี้และต้องหยุดงาน บางรายต้องเลิกทำงานไปเลยเพราะทนกับการต้องเรียกเงานจ่ายนอกระบบกันไม่ไหว จึงอยากให้ผู้ดูแลเรื่องกฏหมายช่วยบัญญัติคำว่า กรรมกร ในงานก่อสร้างทำอะไรได้บ้างไม่ใช่แค่แบก หาม เพราะกรรมกรต้องมีการพัฒนาฝีมือเป็นช่าง ที่สำคัญปัญหาแรงงานคนไทยที่เป็นช่างฝีมือหายาก
จากนั้นได้ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านนายปริญญา อุดมศักดิ์ ปลัดอำเภอกลุ่มบริหารงานปกครอง เพื่อนำเรื่องนี้ไปดำเนินการต่อ จากนั้นกลุ่มผู้รับเหมาได้แยกย้ายกันกลับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี