‘ผบช.สตม.’นำแถลง‘สืบ ตม.1’โชว์ผลงานตะครุบ‘มาเฟียตะวันออกกลาง’คาซอยนานา มั่วรู้จักจนท.เคลียร์คดีฉลุย รีดเงินต่างชาติ รับอยากอยู่ไทยเหตุค่าครองชีพต่ำ โดนแบล็คลิสต์ไปแล้ว ยังแอบย่องกลับมาใหม่
7 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ปฏิบัติราชการ ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมมาเฟียตะวันออกกลาง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 สืบทราบว่าบริเวณซอยนานา ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยและประกอบอาชีพอยู่เป็นจำนวนมาก มีชาวต่างชาติลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง มีพฤติการณ์เป็นมาเฟีย เก็บเงินค่าคุ้มครองกับคนสัญชาติเดียวกัน และชาวตะวันออกกลางที่พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้อง หรือประกอบธุรกิจในย่านดังกล่าว โดยอ้างว่ารู้จักและมีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถให้ความช่วยเหลือ และดูแลชาวต่างชาติได้ กรณีที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบจับกุม นอกจากนี้ชาวต่างชาติรายดังกล่าวยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายอีกหลายอย่าง
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 ได้ทำการตรวจสอบข้อมูล จนทราบว่าคนต่างด้าวดังกล่าว คือ นาย อาลี สัญชาติจอร์แดน อายุ 24 ปี อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีอาชีพที่ชัดเจนแน่นอน และเคยถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือโอเวอร์สเตย์ เป็นเวลา 1,840 วัน และถูกส่งกลับประเทศเมื่อเดือนกันยายน 2562
เมื่อทราบข้อมูลแน่นอนชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัว นายอาลี ได้ที่บริเวณซอยสุขุมวิท ซอย 3/1 แขวงคลองเตยเหนือ กรุงเทพฯ โดยนายอาลี ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองต้องการอยู่ในประเทศไทย เพราะค่าครองชีพต่ำ หาเงินง่าย รายได้ดี ดังนั้นเมื่อถูกส่งกลับประเทศจอร์แดน จึงได้พยายามหาช่องทางจะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง โดยทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลของตนเองได้ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อเดินทางต่อเข้ามายังประเทศไทยทางด่าน ตม.สะเดา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธการเข้ามาในราชอาณาจักร เนื่องจากการตรวจสอบจากระบบไบโอเมทริกซ์ พบว่าตนมีแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทย
นายอาลี สารภาพด้วยว่า ตนจึงลักลอบเข้าประเทศไทย ทางช่องทางธรรมชาติ และเดินทางต่อมายังกรุงเทพฯ โดยหลบไปพักกับหญิงไทยที่ จ.สมุทรปราการ และจะหลบเจ้าหน้าที่โดยการแฝงตัวปะปนกับชาวต่างชาติตามแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านเศรษฐกิจกลางกรุง ตนจะหารายได้จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใหม่ โดยใช้ความเป็นคนต่างชาติ ซึ่งอยู่ประเทศไทยมานาน และอ้างว่าสามารถคุ้มครองดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย จนถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน บก.ตม.1 จับกุมได้ในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ชุดสืบสวนฯ ยังพบว่า นายอาลี จะเรียกรับผลประโยชน์จากบุคคลชาติตะวันออกกลาง เช่น ซีเรีย จอร์แดน อียิปต์ โดยอ้างว่าหากกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ เช่น การอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ , การประกอบอาชีพต้องห้ามบางประเภท เช่น การขายของหน้าร้าน ขายโทรศัพท์ และบางส่วนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดรายย่อย โดยการเรียกเก็บค่าคุ้มครองจะมีจำนวนมากน้อยต่างกัน ตามประเภทของการกระทำความผิดของชาวตะวันออกกลางในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี