‘สธ.’ แถลงคืบหน้า ‘ไวรัสโคโรนา2019’ ผู้ป่วยในไทยยังคงที่ 32 ราย อาการหนักขึ้น 2 ราย กลับบ้านได้แล้ว 10 คน จับตา ‘สิงคโปร์-ฮ่องกง-เกาหลีใต้’ ระบาดหนัก - อาจต้องออกมาตรการเพิ่ม แนะคนทำงานใกล้นทท.สวมหน้ากากอนามัย
9 ก.พ.63 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า สำหรับสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ยังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลก 37,549 คน มีจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก 813 คน มีผู้ได้รับการรักษาหายเป็นปกติทั่วโลก 2,701 คน ขณะเดียวกันเรากำลังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และเกาะฮ่องกง เพื่อจะดูว่าสถานการณ์ใน 3 ประเทศนี้ จะไปในทิศทางใด ส่วนจำนวนผู้ป่วยยืนยันในประเทศไทย มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังผสมทั้งหมด 679 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ถูกตรวจคัดกรองเจอที่สนามบิน จำนวน 51 ราย ผู้ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง 628 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มารับการรักษาใน โรงพยาบาลเอกชน
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ตอนนี้เรามีผู้สงสัยที่รับไว้อยู่ในการดูแล 376 คน และมีผู้ที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 284 คน เรามีผู้ป่วยยืนยัน 32 คนซึ่งแบ่งเป็นชาวจีน 23 คน คนไทย 9 คน โดยมีคนไทยที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ 5 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเริ่มมีการแพร่โรคในประเทศของเราอยู่ในวงที่จำกัด ด้วยสถานการณ์อย่างนี้ เราจึงอยากกระตุ้นเตือนให้ผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีน หากใครที่รู้สึกว่าเริ่มมีอาการเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ หรือหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน และขอให้ใส่หน้ากากอนามัยก่อนไปพบแพทย์ ซึ่งคนส่วนนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้ามีผู้ป่วยส่วนนี้หลงอยู่ในชุมชน โดยที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยได้โดยเร็ว ก็อาจทำให้มีปัญหาการแพร่โรคในวงที่กว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงอยากกระตุ้นเตือนในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน เราได้แจ้งให้กับแพทย์ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนว่าจะต้องเตือนเรื่องการซักประวัติผู้ป่วยโดยละเอียดว่าเขามีประวัติการสัมผัสนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ตนอยากชี้ให้เห็นว่ากรณีของผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 32 คนนี้มีประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ป่วยในส่วนดังกล่าว เป็นผู้ป่วยที่เราวินิจฉัยได้จากกลุ่มที่เราสอบสวนโรค เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ดังนั้นแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของตัวระบบสอบสวนติดตามผู้สัมผัส ถ้าไม่ทำให้เข้มแข็ง คนไข้ 1 ใน 3 นี้ก็จะแพร่โรคในชุมชน จึงถือว่าผลงานที่ทำอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทำได้เร็ว ติดตามผู้สัมผัสได้เร็ว
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับอาการผู้ป่วยโดยรวมทั้ง 22 คน ซึ่งผู้ที่มีอาการดีมาก พร้อมกลับบ้าน โดยรอแค่ผลตรวจในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 คน ส่วนผู้ที่มีอาการค่อนข้างมากมี 2 คน ซึ่งทางแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดและทำการรักษาอย่างเต็มที่ สำหรับคำแนะนำประชาชนทั่วไป ขณะนี้เราอยู่ระยะพบผู้ป่วยในประเทศโดยไม่ต้องไปจีน แต่การพบจำนวนนี้ยังจำนวนน้อย ความเสี่ยงไปเจอผู้ติดเชื้อในชุมชนจากการใช้ชีวิตประจำวันยังค่อนข้างต่ำมาก ระยะนี้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ คำแนะนำที่ละเลยไม่ได้ คือ หลีกเลี่ยงที่มีผู้คนอยู่มาก ไอ จาม และถ้าเห็นใครไอจาม ต้องอยู่ห่างๆ และล้างมือบ่อยๆ ถ้ายิ่งทำงานมีความเสี่ยง ควรใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่รถสาธารณะ ก็ลดความเสี่ยงตัวเราลงไป สำหรับคนไทยกลับจากนครอู่ฮั่น ประเทศจีน คนที่มีอาการแรกเริ่ม 4 คนที่กลับมา ผลเป็นลบชัดเจน กำลังทยอยกลับมาเฝ้าระวังต่อที่เรือนพัก
ด้านรศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อวัณโรคร่วมกับเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้ยังอยู่ในเครื่องช่วยหายใจ อาการทั่วไปค่อนข้างคงที่หรืออาการสงบ มีออกซิเจนเลี้ยงเลือด 94-95 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าค่อนข้างดี ต้องดูแลต่อไป ส่วนอีกรายหนึ่งอายุ 30 กว่าปี มีอาการหนักเพราะมีการไอมาก ซึ่งขณะนี้มีการให้ออกซิเจน แต่ไม่ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ ก็อยู่ในภาวะสงบ ซึ่งจากการติดตามมอนิเตอร์กราฟร่างกายผู้ป่วยที่หน้าจอ ก็เป็นปกติดี แต่ผู้ป่วยนอนนิ่งมาก ตอนแรกก็ตกใจ ทำไมผู้ป่วยไม่ขยับเลย แต่พบว่าเป็นการหลับลึกซึ่งแสดงว่าอาการค่อนข้างดี เรียกว่าอาการอยู่ในขั้นรับได้ทั้งคู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี