‘เสี่ยง’เพื่อชาติ!พ่อแม่สุดเศร้าลูกชาย‘อรินทราช’พลีชีพเหตุ‘จ่าคลั่ง’ ภูมิใจรับใช้ปชช.
9 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า บรรยากาศที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 7 บ้านดงมะตื๋น ต.ผางาม อ.เวียงชัย ของ ร.ต.อ.ตระกูล หรือ “ปุ๊” ทาอาษา อายุ 35 ปี ผบ.หมวด (สบ.1) กองร้อยปฎิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. หน่วยอรินทราช 26 ซึ่งเสียชีวิตจากการเข้าเคลียร์สถานการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ก่อเหตุกราดยิงใน จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าทันทีที่ชาวบ้านและเพื่อนตำรวจทราบข่าวการเสียชีวิตก็ได้เดินทางเข้ามาบ้านของ ร.ต.อ.ตระกูล เป็นจำนวนมาก เพื่อมาให้กำลังใจนายก๋วน ทาอาษา อายุ 63 ปี และนางเพียรศรี ทาอาษาอายุ 57 ปี บิดาและมารดาของ ร.ต.อ.ตระกูล
สำหรับบรรยากาศนั้นเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ชาวบ้านที่ทราบข่าวการจากไปของ ร.ต.อ.ตระกูล ต่างเป็นกำลังใจให้ทางครอบครัว โดยเฉพาะนายก๋วน และนางเพียรศรี ไม่ให้คิดมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับอยู่เป็นเพื่อนกับครอบครัวจนกว่าจะมีการรับศพของ ร.ต.อ.ตระกูล กลับมาบำเพ็ญกุศล โดยนายก๋วนและนางเพียรศรี ญาติ ได้นำรูปถ่ายของ ร.ต.อ.ตระกูล ซึ่งถ่ายไว้ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ภาพรับปริญญา และภาพการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.อ.ตระกูล ทุกพื้นที่ออกมาดูเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี รวมทั้งทำความสะอาดห้องนอนของ ร.ต.อ.ตระกูล ให้เป็นครั้งสุดท้าย
นายก๋วน เล่าว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุตรชาย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรทำได้เพียงทำใจให้เข้มแข็งไว้เท่านั้น ทันทีที่ทราบข่าวทุกคน โดยเฉพาะนางเพียรศรีร้องให้อย่างหนักจนแทบไม่มีน้ำตาแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วัน บุตรชายได้โทร.มาหาให้ขายสวนยางที่มีอยู่ประมาณ 7 ไร่ โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะขายมาก่อน ลูกชายบอกว่าเป็นห่วงพ่อแม่ จะได้มีเงินมาใช้เลี้ยงหลาน และครอบครัวไม่ต้องลำบาก แต่ไม่ทันได้ขายลูกชายก็มาจบชีวิตเสียก่อน
ส่วนกำหนดการบำเพ็ญกุศลนั้นยังไม่ได้กำหนด ต้องรอต้นสังกัดของทางบุตรชายกำหนดมาอีกที เดิมทีตั้งใจจะจัดงานศพไว้ที่บ้าน แต่ทางตำรวจมาดูแล้วบอกคับแคบ ได้นำไปจัดบำเพ็ญกุศลภายในวัดประจำหมู่บ้านแทน
ด้านนางเพียรศรี กล่าวว่า บุตรชายเป็นคนนิสัยดีมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยเกเรทุบตีใคร ขยันทำงานช่วยเหลือครอบครัวมาโดยตลอด พอทำงานก็เป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะบุตรชายยังไม่มีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู มีเพียงแฟนสาว แต่ยังไม่ได้มาอยู่เป็นครอบครัว ปกติจะทำงานที่กรุงเทพฯนานๆทีจะกลับมาบ้านครั้งหนึ่ง เพื่อเอาเงินมาให้พ่อแม่ได้ใช้จ่าย
นางเพียรศรี กล่าวอีกว่า ปกติบุตรชายจะห่วงพ่อแม่ไม่ยอมบอกเล่าถึงอันตรายในการทำงานให้ฟังเลย บอกเพียงว่าไม่ต้องห่วงแม้จะอันตราย แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตหรอก แต่พ่อแม่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ คอยบอกบุตรชายให้ทำงานด้านสำนักงานดีกว่า ไม่ต้องทำงานในส่วนปราบปรามมันอันตราย ก่อนหน้าตอนรับตำแหน่งใหม่ได้ไปทำงานที่ จ.ยะลา เพื่อนๆตำรวจก็เคยประสบเหตุเสียชีวิตมาแล้ว ก็เลยเป็นห่วง เตือนบุตรชายไปหลายครั้งก็บอกเพียงว่าไม่ต้องห่วงการทำงานก็มีเสี่ยงบ้าง เพื่อรับใช้ประเทศชาติ
“ก่อนเข้าไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ก็ไม่ได้โทร.บอก แต่ไม่รู้ทำไมก่อนหน้านี้ 3 วันกลับบอกให้ขายสวนยางเพื่ออยากเอาเงินให้พ่อแม่เหมือนลางบอกเหตุ จนกระทั่งเกิดเหตุ ทันทีที่ทราบข่าวแทบจะเป็นลม ซึ่งรู้ว่าบุตรชายเป็นตำรวจแล้วต้องมาจบชีวิตแบบนี้ย้อนเวลากลับไปได้ไม่ให้เป็นเสียดีกว่า หากซื้อชีวิตบุตรชายกลับมาเท่าไรก็จะซื้อ เพราะบุตรชายเหมือนเสาหลักของครอบครัว แต่ต้องมาต้องจากไปก่อนวัยอันควร” นางเพียรศรี กล่าว
นางเพียรศรี ระบุว่า อย่างไรก็ตามตอนนี้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว ทางครอบครัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องพยายามทำใจ และอยากให้ลูกชายหากเกิดชาติหน้าก็อยากให้ทำดีมากกว่านี้ แม้จะสูญเสียลูกชายไป แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายเสียชีวิตในหน้าที่รับใช้ประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้ ทราบว่า ร.ต.อ.ตระกูล เป็นบุตรชายคนโต และมีน้องชาย 1 คน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนพลตำรวจ อีกประมาณ 5 เดือน ก็จะจบหลักสูตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี