ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงานเกษตรแฟร์ 2563 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมใหม่ เพื่อไทยยั่งยืน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ต้องเขียนถึงเกษตรแฟร์ปีนี้เพราะมีอะไรที่ดูเปลี่ยนไปจากหลายปีที่ผ่านมา และที่เพิ่งมาเขียนถึงเอาเมื่องานจบไปแล้วเพราะเพิ่งมีโอกาสไปเดินในงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ซึ่งก็เกือบจะวันสุดท้ายของงานแล้ว
เกษตรแฟร์ปีนี้มีผังงานที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ปีที่ผ่านๆ มา จะเริ่มจากประตู 1 ถนนงามวงศ์วานคือนับตั้งแต่มุมธนาคาร กรุงศรีอยุธยา ไปตามถนนจันทรสถิตย์ ที่ขนานกับถนนงามวงศ์วาน เป็นต้นไป จนถึงอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริฯ ไปตามถนนจักรพันธ์ และจะมีซอยแยกข้างอาคารวชิรานุสรณ์ ไปตามถนนชูชาติกำภูจนจรดถนนจันทรสถิตย์
มาปีนี้ เกษตรแฟร์เริ่มจากประตูถนนพหลโยธิน วนรอบสระพระพิรุณหน้าหอประชุมใหญ่ ผ่านหน้าสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ กรมประมง ผ่านหน้าอนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ จนจรดประตู 1 งามวงศ์วาน เป็นพื้นที่จัดงานที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมพื้นที่ที่เพิ่มมาตรงนี้เพื่อเรียกแขกจากรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่เพิ่งทดลองให้บริการมาเมื่อปลายปีที่แล้วหรืออย่างไรไม่ยืนยัน แต่เท่าที่สังเกตดูก็น่าจะเรียกแขกกลุ่มนี้ได้มากทีเดียว
บริเวณรอบสระพระพิรุณเป็นตลาดน้ำแทนตลาดน้ำเดิมที่ปีก่อนๆ จะอยู่หน้าสำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร เป็นตลาดน้ำที่ไม่ได้ลงไปในสระน้ำ แต่เป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงหรือได้รับความนิยมจากตลาดน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ต่อจากตลาดน้ำ ตั้งแต่แยกกรมประมง ไปจนถึงประตู 1 งามวงศ์วาน เป็นพื้นที่ที่เรียกว่าโซน SME จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านค้าของสมาพันธ์ SME ไทย
ส่วนพื้นที่เดิมที่เคยจัดเมื่อปีก่อนๆก็ยังเหมือนเดิม คือ โซนจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการเกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร โซนต้นไม้สลับกับเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร โซนสินค้าแฮนด์เมด และ DIY โซนจำหน่ายสัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์ โซนสินค้าอาหาร ผัก ผลไม้ หอม กระเทียม ซึ่งทราบมาว่าปีนี้ จังหวัดศรีสะเกษ มาโปรโมทหอมแดงศรีสะเกษ GI ด้วย แต่ร้านจำหน่าย หอม กระเทียม ก็มีไม่มากนัก เช่นเดียวกับ มะขามหวาน ที่ปีนี้ดูจะแพ้สตรอเบอร์รี่ และ เคปกูสเบอร์รี่ ที่มีมาจำหน่ายมากกว่าทุกปี
โซน เค.ยู. ช้อปปิ้งมอลล์ ซึ่งเป็นเต็นท์ติดแอร์ซึ่งมีอยู่เต็นท์เดียวกับสินค้าเจ้าประจำ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง ที่เรียกว่าเจ้าประจำ เพราะสินค้าก็จะเหมือนเดิมเช่นทุก ภายในช้อปปิ้งมอลล์นี้ยังมีสินค้าจากมูลนิธิในพระองค์ต่างๆ เช่น ร้านโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านมูลนิธิจุฬาภรณ์ ร้านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก เป็นต้น
ต่อจากเค.ยู.ช้อปปิ้งมอลล์ ก็จะเป็น เค.ยู.เอาท์เล็ต และร้านค้าของหน่วยราชการ และธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นเต็นท์ไม่ติดแอร์ แต่ปีนี้เดินได้อย่างสบายๆ คนไม่หนาแน่น ไม่ทราบว่าไวรัส COVID-19 เป็นเหตุหรือเปล่าทำให้คนหลีกเลี่ยงที่จะมาอยู่ในที่แออัดด้วยผู้คน
ที่น่าสนใจคือ Amazing Zone ที่เห็นป้ายชื่อโซนแล้วก็ให้อยากรู้ว่าจะมีอะไรให้ Amazing พอได้เห็นก็ต้องบอกว่าแปลกใจเหมือนกัน แปลกที่ว่าปีนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จับมือกับกรมราชทัณฑ์ นำสินค้าจากทัณฑสถานของจังหวัดต่างๆ มาจำหน่าย โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของราชทัณฑ์ รวมทั้งสินค้าที่เป็นฝีมือจากผู้ต้องขังหญิง ประเภทเสื้อผ้า สิ่งทอ ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ สินค้าแฮนด์เมด ของใช้ต่างๆ ซึ่งฝีมือใช้ได้ทีเดียว ราคาไม่แพง
บนอาคารจักรพันธ์ฯ ซึ่งเป็นเพียงสถานที่เดียวที่มีการแสดงผลงานทางวิชาการ ผลงานวิจัย การนำเสนอยังเหมือนเดิม คือตั้งเป็นโต๊ะๆ มีนิสิต หรือเจ้าของผลงานคอยนั่งให้ข้อมูลเมื่อมีคนสนใจเข้ามาไถ่ถาม ถ้าไม่ถามก็แล้วไป แต่ก็จะมีป้ายข้อมูลแบบสรุปให้อ่าน หรือมีคิวอาร์โคดให้สแกนไปอ่านรายละเอียดกันเอาเอง
มีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ที่จำได้ คือ มีพันธุ์พืชใหม่อยู่ 2-3 ชนิด คือ ข้าวโพด กับมันสำปะหลัง ข้าวโพดที่ว่า เป็นข้าวโพดสีม่วง เป็นข้าวโพดหวานที่เขาบอกว่ามีสารแอนโทไซยานินสูง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อพันธุ์ อีกพืชหนึ่งคือมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 80 เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงถึง 5.8 ตันต่อไร่ปริมาณแป้งหัวสดสูงเฉลี่ย 28-32%ทนต่อสภาวะฝนทิ้งช่วง และ หรือถ้าเจอฝนมากๆ ก็ทนต่อสภาวะหัวเน่าด้วย
ในเรื่องของการประกวด เกษตรแฟร์ปีนี้ มีการประกวดหลายประเภทมีทั้งประกวดกล้วยไม้ ไม้ประดับ ผลไม้ ประกวดสัตว์เลี้ยง แพะ แกะ และแมว ประกวดปลากัด ประกวดผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกวดวาดภาพและแข่งขันจัดตู้ปลา
ที่น่าสังเกตงานเกษตรแฟร์ปีนี้นอกจากเพิ่มพื้นที่ร้านค้าด้านประตูพหลโยธิน และปริมาณคนไม่หนาแน่นเช่นทุกปีแล้ว เต๊นท์ต่างๆ ยังดูกว้างขวางเดินสบายๆ ไม่ร้อน ไม่สกปรก ดูจากโซนมะขามหวาน ทุกปีเปลือกมะขามจะกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น มาปีนี้มีถุงขยะให้ใส่เปลือกอยู่หน้าร้าน พื้นไม่เลอะเทอะเหมือนทุกปี ที่แน่ๆ คือ รายได้จากร้านค้าปีนี้น่าจะมากกว่าทุกปี แต่ร้านค้าที่มาจำหน่ายสินค้าอาจจะขายได้น้อยกว่าทุกปี..(รึเปล่า)
วันนี้ว่าด้วยเรื่องเบาๆ ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ....กับงานเกษตรแฟร์ที่เด็กๆ นิสิต บอกว่า “ใครไม่แฟร์แต่เราแฟร์”.....จะ Fair (ตลาดนัด)หรือ ไม่ Fair (ยุติธรรม) ก็ Fairเหมือนกัน...
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี