"อธิบดีกรมควบคุมโรค"ระบุ"เรือซีบอร์นฯ"ไม่มีผู้ป่วย-แวะพักไทยแค่10ชม. ขณะมาตรการตรวจเข้มก่อนแตะผืนแผ่นดินไทย แต่"เรือเวสเตอร์ดัม"มีผู้โดยสาร-ลูกเรือคนไทย21คน เตรียมวางแผนล่วงหน้าจัดจนท.หากกัมพูชาส่งต่อใช้ไทยเป็นจุดแวะเปลี่ยนเครื่อง ขณะ"รองอธิบดีกรมควบคุมโรค"เผยจับตาผู้ป่วยปอดอักเสบ6จังหวัดเสี่ยง รวมทั้งติดตามสถานการณ์สิงคโปร์-ฮ่องกง พบผู้ป่วยสูงก้าวกระโดด อาจจำเป็นยกระดับคัดกรองเข้าประเทศ
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค , นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และ ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (สวช.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 19
โดย นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 19 (COVID-19) ทั่วโลกใน 26 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 60,062 ราย เสียชีวิต 1,360 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 59,539 ราย เสียชีวิต 1,358 ราย
สำหรับประเทศไทย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสมตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์ 2563 มีจำนวนทั้งหมด 823 ราย แยกเป็นคัดกรองจากสนามบิน 53 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 770 ราย ซึ่งได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 673 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 150 ราย
ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย ประจำวันนี้ (13 ก.พ.63) ณ เวลา 08.00 น.ขณะนี้เหลือจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 21 ราย ขณะยอดรวมสะสม คงที่ 33 ราย โดยมีข่าวดีผู้ป่วยนักท่องเที่ยวชายชาวจีนอายุ 61 ปี ที่รับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ได้อนุญาตให้กลับบ้านเพิ่มอีก1ราย รวมเป็น 12 ราย แต่ผู้อาการหนักตั้งแต่แรกรับมา 2 ราย ที่สถาบันบำราศนราดูร แพทย์รักษาตามอาการและดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่คณะคนไทยกลับบ้านจากอู่ฮั่นที่จัดให้พักฐานทัพเรือสัตหีบ วันนี้เป็นวันที่ 9 ของการเฝ้าระวังโรค ผู้ป่วยยืนยัน 1 รายเป็นชายไทยอายุ 25ปี ซึ่งส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลชลบุรีนั้น อาการยังเป็นปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก แต่ยังคงให้อยู่ในห้องแยกโรค และเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้องรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำอีกครั้ง หากผลไม่พบเชื้อจึงให้กลับบ้านได้ ขณะที่คนไทยที่พักอาคารรับรองสัตหีบจำนวน 137 คน ทุกคนยังสบายดี ไม่มีไข้
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 19 ของไทย แพร่โรคในวงจำกัดภายในประเทศ ซึ่งไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด แม้ว่าจะยังไม่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยวิธีการตรวจหาผู้ป่วยของไทยตอนนี้ขยายวงกว้างการเฝ้าระวังไปยังกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบจากไวรัสที่หาสาเหตุไม่ได้ทุกรายที่อยู่ใน 6 จังหวัดเสี่ยง ได้แก่ กทม. , ชลบุรี , เชียงใหม่ , เชียงราย , กระบี่ และภูเก็ต
พร้อมกันนี้ ตนตั้งข้อสังเกตให้จับตาสถานการณ์ประเทศจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสัดส่วนแบบก้าวกระโดด คือ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ในระยะหลังเป็นการแพร่ระบาดวงจำกัดในประเทศ ดังนั้น กรมควบคุมโรคจึงติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และอาจเป็นไปได้ที่จำเป็นต้องยกระดับการคัดกรองและเฝ้าระวังติดตามคนที่เดินทางมาจาก2ประเทศ เพราะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นควบคุมได้ยาก
ต่อข้อถามกรณีเรือสำราญ เวสเตอร์ดัม จอดเทียบท่าที่ ท่าเรือสีหนุ ประเทศกัมพูชา อาจจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ต้องเดินทางมาต่อเครื่องบินในประเทศไทยนั้น นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารสุขจึงวางมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น และเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเตรียมการเจ้าหน้าที่และบุคลากรเช่นเดียวกับการเฝ้าระวังช่องทางเข้าออกต่างๆ โดยจะใช้มาตรการเข้มงวดเช่นเดียวกันกับช่องการเข้าออกประเทศทางอากาศ ทั้งนี้ ขอย้ำว่าเรือลำดังกล่าวอาจจะแวะมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย เพราะเรือลำนี้ยังอยู่ประเทศกัมพูชา และเชื่อว่ากัมพูชาเองก็จะปฏิบัติตามมาตรฐานเพื่อประโยชน์ประเทศเขาและสุขภาพปลอดภัยของคนบนเรือซึ่งมีจำนวนเกือบ 2 พันคน ดังนั้น ต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งไทยจะมีเวลาพอสมควรเตรียมการ โดยระหว่างนี้ได้ประสานข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ใช่ประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนล่วงหน้าดูแลคนไทยที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว ปัจจุบันทราบข้อมูลว่ามีบนเรือมีผู้โดยสารเป็นคนไทย2 คน และลูกเรือคนไทย 19 คน จึงจำเป็นต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนเช้านี้มีเรือท่องเที่ยว Seabourn Ovation จอดพักที่ท่าเรือน้ำลึก จ.ภูเก็ตนั้น นพ.สุวรรณชัย ยืนยันว่าไม่ใช่การเทียบท่าให้คนลงหรือเข้าเมือง และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคสาธารณสุขของไทยได้ขึ้นไปบนเรือประเมินสุขภาพอนามัยของผู้โดยสารและลูกเรือประจำเรือร่วมกับแพทย์ประจำเรือนั้น ผลการดำเนินการตรวจสอบไม่มีผู้มีอาการเข้าข่ายเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) หลังตรวจสอบสุขอนามัยบนเรือเสร็จสิ้นแล้วก่อนจะลงจากเรือ จะมีแพทย์ประจำเรือวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง และเมื่อใครจะลงจากเรือแตะผืนแผ่นดินไทยจะมีทีมแพทย์ของสาธารณสุขในพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค เจ้าหน้าที่กองทัพเรือตรวจวัดไข้ซ้ำอีกครั้งเพื่อเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะผู้โดยสารกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้ป่วย ที่สำคัญเรือท่องเที่ยวลำนี้มาแวะพักตามเส้นทางเดินเรือเดิมปกติเพียง 10 ชม.และมีการแจ้งเข้าออกประเทศล่วงหน้า24ชม.และส่งข้อมูลอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
ศ.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดตัวแบบคัดกรองออนไลน์ สำหรับผู้สงสัยจะป่วย โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พัฒนาแบบคัดกรองตนเองออนไลน์ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนเพื่อให้ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 (Self-Screening) โดยสามารถเข้าไปตอบคำถามเพียง 4 ข้อ เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะติดโรคและดูคำแนะนำการปฏิบัติตัว ได้ที่ http://sescimande.net/Self-Screening/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี