ชาวโคราชรวมใจ
ฟื้นฟูบ้านเมืองหลังเหตุกราดยิง
เทอร์มินอล21เปิดใหม่แล้ว
‘บิ๊กแดง’สั่งทวงบ้านหลวง
ชาวโคราชร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และทำบุญห้างเทอร์มินอล 21 ที่กลับมาเปิดทำการเป็นวันแรกหลังเหตุสะเทือนขวัญ ขณะที่ผู้บริหารของห้างฯ
ประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกอ้านอย่างเต็มที่ เพื่อให้บรรยากาศกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ขณะที่บริษัทประกันจ่ายเงินให้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตแล้วรวม16ล้านบาท ด้าน‘บิ๊กแดง’สั่งตรวจข้อมูลบ้านหลวง หากพบทหารเกษียณแล้วไม่ทำประโยชน์ให้ประเทศ ต้องย้ายออกไปตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
เมื่อเวลา 06.30น.วันที่ 13กุมภาพันธ์ ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.ต.อัครเดช พิมลศรี รอง ผบช.ตร.ภ.3 ร่วมเป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ทหารหน่วยกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุกราดยิงหลายจุดในเมืองโคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 58 ราย ซึ่งพิธีดังกล่าว มีเครื่องบูชาเซ่นบวงสรวงอาหารคาวหวาน 9 อย่าง โดยมีพราหมณ์สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาประกอบพิธีกรรม มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มสตรี และประชาชนทั่วไปสวมชุดขาวกว่า 200 คน มาร่วมพิธี
นายวิเชียรฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวจ.นครราชสีมาได้รับผลกระทบ ซึ่งตามความเชื่อที่พี่น้องชาวนครราชสีมาหรือชาวไทยคนใดคนหนึ่งอาจจะไปหลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรหรือเปล่า ก็เป็นความเชื่อของคนในพื้นที่เราจึงมาทำพิธีขอขมาลาโทษกับองค์ท้าวสุรนารีหรือย่าโมว่า หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เราล่วงเกินท่านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ขอให้คุณย่าโมอภัย
ทยอยมอบเงินเยียวยา
ส่วนยอดเงินบริจาคตอนนี้เกิน 50 ล้านบาทแล้ว นายวิเชียร กล่าวว่า เมื่อคืนเวลา 20.00น.ยอดรวมการบริจาคทั้งหมด 53 ล้านบาทเศษ แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเราได้ไปมอบเงินเยียวยาสำหรับญาติผู้เสียชีวิตรายละ 300,000บาท ทั้งหมด 27ราย เยียวยาเรียบร้อยทั้งอยู่ใน จ.นครราชสีมาและอยู่ต่างจังหวัด และไปจ่ายเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บที่ยังนอนอยู่ที่โรงพยายาลทั้งหมด 22 รายเป็นเงิน 2 ล้าน 2 แสนบาท และหากมียอดบริจาคเกิน 50 ล้านบาท เราจะตัดให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท โดยทุกรายจะได้เงินสด โดยช่วงเช้าจะขออนุมัติที่ประชุมจะจ่ายผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกรายละ 7 แสนบาท รวมกับเงิน 3 แสนที่จ่ายไปแล้วเป็น 1 ล้านบาท โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเรียนเชิญญาติผู้เสียชีวิตในที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา มารับที่ศาลากลาง จ.นครราชสีมา ส่วนต่างจังหวัดเราจะโอนให้ในช่วงบ่ายวันนี้เลย
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมศูนย์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตฯ ได้มีมติไม่มอบเงินบริจาค หรือเงินเยียวยาให้แก่ญาติของผู้ก่อเหตุ และญาตินายทหารซึ่งเป็นคู่กรณีเท่านั้น ส่วนผู้บาดเจ็บจะมีการพิจารณาตามอาการอีกครั้ง
เทอร์มินอล21กลับมาเปิดแล้ว
เวลา 10.00น.บรรยากาศวันแรกของการกลับมาเปิดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกเข้ามายิงผู้บริสุทธิ์และถูกวิสามัญเสียชีวิต พบว่า ประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยได้คัดกรองให้ผู้เข้ามาด้านใน ต้องเดินเท้าผ่านจุดค้นอาวุธและวัตถุอันตราย ส่วนหนึ่งได้ลงบันไดเลื่อนไปชั้นแอลจี ซึ่งเป็นที่ตั้งฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาเก็ต จุดที่พบศพคนร้ายและประชาชนถูกยิงเสียชีวิตมากที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งโต๊ะด้านหน้าพร้อมปิดกั้นพื้นที่ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินผ่านและเข้าไปด้านในอย่างเด็ดขาด ประชาชนจึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้ ทั้งนี้บริเวณชั้นจี หรือชั้น 1 ด้านข้างเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางศูนย์การค้าฯ ได้เปิดพื้นที่บริการให้ดอกไม้และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้วางดอกไม้และเขียนข้อความแสดงความอาลัยต่อผู้เสียชีวิต
ช่วยผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่
ต่อมา นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามรีเทล ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด แถลงว่า หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจสอบสถานที่ ทำความสะอาดและดูแลความเรียบร้อยตลอดระยะเวลา 4 วัน ทางห้างก็พร้อมกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ 99% ทุกชั้น ทุกโซน ยกเว้นพื้นที่บริเวณฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารถูกและดี คาดจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ เราได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนมั่นใจ เชื่อมั่นเมื่อมาใช้บริการ
“เทอร์มินอล 21 โคราช ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวและขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนช่วยเหลือและให้กำลังใจ ศูนย์การค้าฯ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 มาร่วมปฏิบัติการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เราให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและประสานงานอย่างเต็มที่ทั้งในขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ อีกทั้งได้ดำเนินมาตรการในการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูและสร้างขวัญกำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรายละ 100,000 บาท มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของผู้เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท ยกเว้นค่าเช่าพื้นที่ให้กับร้านค้าทั้งหมดกว่า 500 ราย เป็นเวลา 1 เดือน และช่วยเหลือในด้านการทำการตลาด การปรับปรุงและตกแต่งสถานที่ การจัดแคมเปญ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างบรรยากาศภายในศูนย์การค้าให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง” นายประเสริฐ กล่าว
ประกันจ่ายเหยื่อแล้ว16ล้านบาท
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทประกันชีวิตได้เร่งจ่ายสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและบาดเจ็บจากเหตุความรุนแรงในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว 16,726,839 บาท แบ่งเป็นสินไหมมรณกรรม 14,305,669 บาท และสินไหมทดแทนค่ารักษาพยาบาล 2,421,170บาท จากบริษัทประกันชีวิต ที่เข้ารับทำประกันไว้รวมทั้งสิ้น 15 บริษัท และมีผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ได้ทำประกันไว้ทั้งสิ้น 13 ราย
นางนุสรา กล่าวว่า บริษัทประกันชีวิตได้เร่งจ่ายสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและบาดเจ็บ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที และสำหรับญาติผู้เสียชีวิตที่มีความประสงค์ต้องการตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตได้ทำประกันชีวิตไว้หรือไม่ สามารถติดต่อสอบถามที่สมาคมประกันชีวิตไทย เบอร์โทรศัพท์ 02 679 8080 โดยแจ้งรายละเอียดชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิต และสมาคมประกันชีวิตไทยจะประสานกับบริษัทประกันชีวิตเพื่ออำนวยความสะดวกต่อไป
คปอ.สอบปัญหาบริหารงานกองทัพ
ที่รัฐสภา น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ประสานงานคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และองค์กรพันธมิตร ยื่นหนังสือต่อนายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยในฐานะที่ปรึกษากมธ.การทหาร เพื่อขอให้ตรวจสอบปัญหาการบริหารงานในกองทัพ ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน การใช้อำนาจมิชอบโดยผู้บังคับบัญชา และการขาดประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของอาวุธ ในประเด็นต่อไปนี้ 1.การเก็บรักษาคลังอาวุธในค่ายทหาร การฝึกกำลังพล ให้มีความพร้อมรับกับสถานการณ์ร้าย 2.การประกอบธุรกิจในกองทัพ ซึ่งเปิดช่องให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในหมู่บุคลากรและกำลังพล และ3.การใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้บังคับบัญชา
ด้าน นายประเสริฐ กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว จะนำเข้าในที่ประชุมกมธ.การทหาร สภาฯ เพื่อพิจารณาว่าจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เช่น ผบ.ทบ. ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรง ได้เข้าชี้แจงต่อกมธ.ฯ ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่า กมธ.ฯ จะทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเรื่องของการบริหารงานภายในกองทัพในอนาคต
สั่งไล่เช็คทหารเกษียณคืนบ้านพัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีแนวความคิดให้นายทหารที่เกษียณราชการย้ายออกจากบ้านหลวง เพื่อเป็นจัดระบบบ้านพักสวัสดิการของทหาร โดยจะจัดให้ทหารที่ยังไม่เกษียณอายุราชการ ได้เข้าไปพักอาศัยต่อนั้น มีรายงานข่าวว่า ผบ.ทบ. สั่งการไปยังกรมสวัสดิการทหารบก ให้ตรวจสอบบ้านพักของกองทัพบกว่ามีผู้เกษียณอายุราชการที่ยังพักอาศัยอยู่หรือไม่ แล้วให้แบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ 1.ให้ทำหนังสือถึงผู้ที่เกษียณอายุราชการแล้วยังอาศัยอยู่ที่บ้านสวัสดิการ และไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศ โดยแจ้งให้ออกจากบ้านพัก ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และ 2.ในส่วนที่ผู้เกษียณราชการแล้ว แต่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ยังสามารถอาศัยอยู่ได้ตามปกติ
นายกฯร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ
เย็นวันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อภิษณาภา ขันผักแว่น เมรุวัดหนองไผ่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เดินทางมาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ผู้เสียชีวิตที่ได้พลีชีวิตโดยใช้ตัวบังกระสุนของคนร้ายเพื่อให้ลูกสาวปลอดภัย สำหรับวันนี้มีองคมนตรีเป็นประธานประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ รวม 11 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี