ปภ.ประกาศเขตภัยแล้งลาม 22 จังหวัด เร่งมือบูรณาการเข้าช่วยเหลือ ด้านเกษตรกรบุรีรัมย์หันใช้น้ำบาดาล ติดระบบสปริงเกอร์ให้แคนตาลูป ฟันกำไรเดือนละ 2-3หมื่นบาท เลี้ยงครอบครัวได้สบาย กระทรวงเกษตฯเผยเตรีมปฎิบัติการทำฝนหลวง ดีเดย์เริ่ม17กพ.นี้
เมื่อวันที่ 16กุมภาพันธ์ นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 22 จังหวัด รวม 128 อำเภอ 676 ตำบล 5,849 หมู่บ้าน/ชุมชนแยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย และเพชรบูรณ์ รวม 37 อำเภอ 169 ตำบล 1,211 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ10จังหวัด ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมาบุรีรัมย์ ชัยภูมิ และศรีสะเกษ รวม 58 อำเภอ 343 ตำบล 3,287หมู่บ้าน ภาคกลาง 6จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานีชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 33 อำเภอ 164 ตำบล 1,351 หมู่บ้าน
อธิบดี ปภ.กล่าวอีกว่า ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงของพื้นที่ทั้งการสูบส่งน้ำ การขุดบ่อน้ำตื้น การขุดบ่อน้ำบาดาล การเป่าล้างบ่อบาดาลและจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านและจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่
ด้านเกษตรกรบ้านหนองสรวงและบ้านคูขาด ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จำนวนกว่า 20ครัวเรือน ได้ลงทุนเจาะบ่อบาดาลเพื่อดึงน้ำใต้ดิน พร้อมต่อท่อและสายยางเข้ารดหล่อเลี้ยงแปลงแคนตาลูปที่เพาะปลูกไว้ หลังจากน้ำบนดินในสระหรือห้วยหนองคลองบึงต่างๆ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอดไม่สามารถสูบมารดหล่อเลี้ยงสวนแคนตาลูปได้ ขณะเกษตรกรบางรายก็ปรับลดพื้นที่ปลูกลงเพื่อให้มีน้ำเพียงพอ เพื่อเป็นการปรับตัวสู้กับวิกฤตภัยแล้ง ซึ่งเกษตรกรบอกว่าที่ปลูกแคนตาลูปเพราะเป็นพืชใช้น้ำน้อย และมีระยะเวลาในการปลูกเพียง 45-60วันเท่านั้นก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ทำให้มีรายได้จากการปลูกแคนตาลูปขายเฉลี่ยไร่ละ 5-6หมื่นบาท หักต้นทุนและค่าจ้างคนงานแล้วก็จะเหลือกำไรไร่ละ 2-3 หมื่นบาท ซึ่งถือเป็นพืชชนิดหนึ่งที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี
นางสุภี อุดมผุย อายุ 48 ปี เกษตรกรบ้านคูขาด บอกว่า ปีนี้ค้อนข้างแห้งแล้งกว่าทุกปีทำให้น้ำในสระ หรือแหล่งน้ำลำคลองต่างๆ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอด เกษตรกรจึงต้องปรับตัวโดยการขุดเจาะบ่อบาดาลต่อท่อและสายยางปลูกแคนตาลูประบบน้ำหยดและปรับลดพื้นที่ปลูกลง เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการปลูกและไม่กระทบกับแปลงแคนตาลูป ซึ่งแคนตาลูปถือเป็นพืชอายุสั้นเพียงไม่ถึง 2เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้เฉลี่ยไร่ละ 5-6หมื่นบาท หักต้นทุนแล้วก็จะเหลือไร่ละ 2-3หมื่นบาท ซึ่งปีนี้ตนปลูก 6ไร่ ก็จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1แสนบาท ถือเป็นรายได้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรนั้น ได้จัดทำแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี 2563 ประกอบด้วย 4 แผนหลัก คือ 1.แผนบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า(ลดความหนาแน่นของ หมอกควันและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ 2.แผนการยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ (บรรเทาและลดความเสียหายจากการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่การเกษตร) 3.แผนการป้องกัน และแก้ไขภัยแล้ง (สร้างความชุ่มชิ้นให้กับพื้นที่ป่าไม้และเพิ่มปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เกษตรกรรม และ4.แผนการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ (เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนต่างๆทั่วประเทศเพื่อสำรองไว้เป็นน้ำต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง)โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค จะเปิดปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ ประจำปี63 วันที่17กุมภาพันธ์นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี