137คนไทยจากอู่ฮั่นพ้นภัย
ทร.ให้กลับบ้าน
หลังกักตัวที่สัตหีบ14วัน
เสี่ยหนูผวาเรือเวสเตอร์ดัม
สั่งห้ามผู้โดยสารเข้าไทย
กังวลพบติดเชื้อหลายคน
จีนเศร้าตายพุ่ง1,770ศพ
ฐานทัพเรือสัตหีบปล่อยคนไทย 137 คน ที่เดินทางกลับจากอู่ฮั่น และถูกกักตัว 14 วันให้กลับบ้านได้ ด้าน“อนุทิน”สั่งห้ามผู้โดยสารบนเรือ “เวสเตอร์ดัม” เข้าไทยเด็ดขาด หลังพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 หลายคน ด้านผู้ติดเชื้อดังกล่าวในจีนเสียชีวิตพุ่งไปที่ 1,770 ศพ
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ว่า ได้เพิ่มการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่น ตามมาตรฐานเหมือนการคัดกรองคนที่มาจากอู่ฮั่น ซึ่งใครไปเที่ยวหรือเพิ่งเดินทางกลับมาจากทั้ง 2 ประเทศนี้นับย้อนหลังไป 14 วัน หากมีไข้ ไม่สบาย ให้รีบมาที่สถาบันบำราศนราดูรเพื่อตรวจรักษาทันที หรือมาตรวจว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ ล่าสุด วันนี้มีการปรับเปลี่ยนการวินิจฉัยโรคจากประเทศที่มีการระบาดมากขึ้น บุคลากรทางการแพทย์ที่ตรวจรักษาผู้ป่วยก็จะนำมาตรวจวินิจฉัยโรคเช่นกัน นอกจากนี้ ยังจะมีการซักซ้อมเพื่อเตรียมการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมาประชุมรับมือหากมีการระบาดทั่วประเทศ และจะให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง มีแล็บตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาได้
ขณะที่คนไทยที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นซึ่งมีการกักตัวเฝ้าระวังในพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ วันนี้คนได้กลับบ้านแล้ว 137 คน ทุกคนไม่มีไข้ ไม่มีใครเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ส่วนอีก 1 คนที่เข้ารักษาใน รพ.ชลบุรี อาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำมูก อยู่ในระหว่างเตรียมการขออนุญาตกลับบ้านวันที่ 19 ก.พ.
ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงดำเนินการภายใต้มาตรฐานที่กำหนด ในส่วนที่มาเลเซียรายงานว่าตรวจพบผู้โดยสารที่มากับเรือ Westerdam มีคนติดเชื้อไวรัสโคโรนาจริง ซึ่งหลังทราบข่าวการยืนยันนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่สนับสนุนให้ผู้โดยสารกลุ่มนี้มาต่อเครื่องหรือมาเปลี่ยนเครื่องที่ไทย ยกเว้นกรณีมีเหตุจำเป็นจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังกักโรค 14 วันตามมาตรการ เพราะคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงเนื่องจากอยู่ในพื้นที่จำกัดเดียวกัน
ห้ามผู้โดยสารเวสต์เตอร์ดัมเข้าไทย
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้โดยสารบนเรือสำราญเวสต์เตอร์ดัม เกิดการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 แล้ว ซึ่งถือเป็นการติดเชื้อบนเรือลำนั้นแน่นอน ไม่ใช่การติดบนผืนแผ่นดิน ดังนั้นจึงเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคขั้นสูงสุด ซึ่งตน พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เห็นตรงกันว่าห้ามผู้โดยสารบนเรือสำราญเวสเตอร์ดัมเข้าประเทศไทยโดยเด็ดขาด จนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรค 14 วัน เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.เป็นต้นมา เพราะถ้าให้เข้ามาไม่ใช่ว่าเราต้องดูแลแค่ผู้โดยสารที่มีชื่อบนเรือลำนั้นเท่านั้น แต่ต้องดูแลคนที่ร่วมเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มเติมอีก ดังนั้นเรื่องนี้กรมควบคุมโรคจะออกประกาศคำสั่งต่อไป ส่วนคนไทยที่อยู่บนเรือลำนั้นเราไม่ห้าม เพราะว่าเข้ามาแล้วเราสามารถตรวจ ติดตามได้
“เมื่อเราห้ามไม่ให้เข้าประเทศแล้ว หากสายการบินใดยังมีการนำผู้โดยสารบนเรือเวสต์เตอร์ดัมเข้ามาในจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนั้นทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงผู้โดยสารคนอื่นๆ ด้วย เพราะเราบอกแล้วว่าห้าม” นายอุทินระบุ
แจ้งทุกฝ่ายระมัดระวังเต็มที่
ขณะที่ นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ย้ำว่า ทางเราไม่สนับสนุนให้ผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยงของเรือ Westerdam มาเปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่อง ซึ่งได้มีการประสานแจ้งไปยังสายการบิน, AOT, กระทรวงการต่างประเทศ และส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมในเวลานี้ พร้อมแนะว่า คนที่กำลังจะไปญี่ปุ่น สิงคโปร์ หรือประเทศที่มีความเสี่ยงของโรคระบาดนี้ ให้เลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็นออกไป แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องป้องกัน และเมื่อกลับมาก็ต้องถูกคัดกรองเฝ้าระวังโรคตามมาตรฐาน และแม้จะเป็นเพียงไข้หวัด ก็ขอให้เข้ารับการตรวจรักษาเพื่อที่จะได้รู้ว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่
ตรวจโรคซ้ำคนบนเรือเวสเตอร์ดัม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ว่ากระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาทำการตรวจร่างกายผู้โดยสารของเรือสำราญเวสเตอร์ดัมอย่างน้อย 236 คนจากหลายประเทศ และเจ้าหน้าที่ประจำเรืออีก 747 คน ซึ่งยังตกค้างอยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
หลังรัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้จอดเทียบท่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเดินทางต่อได้แล้ว โดยนางฮออลี เราเอน หนึ่งในผู้โดยสารชาวอเมริกัน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่าการตรวจสุขภาพจะมีขึ้นครั้งหนึ่งในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. และอีกครั้งคือวันที่ 18 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียยืนยันผลการตรวจหญิงชาวอเมริกันวัย 83 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โดยสารของเรือเวสเตอร์ดัม “มีผลบวก” ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ทั้งสองครั้ง โดยนางฮอลลี เราเอน หนึ่งในผู้โดยสารชาวอเมริกัน กล่าวว่าทุกคนจะถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันจันทร์ และซ้ำอีกครั้งในวันอังคารที่ 18 ก.พ. นี้
จีนเศร้ายอดตายพุ่ง1,770ศพ
ด้านคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงว่า เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในจีน 105 คนโดยเป็นผู้ที่อยู่ในมณฑลหูเป่ย์ 100 คน ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ทำให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในจีนอยู่ที่ 1,770 คน ส่วนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 2,048 คน สูงกว่าเมื่อวันเสาร์ 39 คนหลังจากลดลงติดต่อกัน 3 วัน โดยเป็นผู้ที่อยู่ในมณฑลหูเป่ย์ 1,933 คน แต่ยอดผู้ติดเชื้อนอกมณฑลหูเป่ย์ลดลงติดต่อกันมาแล้ว 13 วันเหลือ 115 คน จากเดิมเกือบ 450 คนเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน
ทางการจีนระบุว่า สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของมาตรการยับยั้งการระบาดที่จีนใช้อยู่ อย่างไรก็ดี นายเทโดรส กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเตือนว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าทิศทางการระบาดของโรคจะเป็นอย่างไร สำหรับยอดผู้เสียชีวิตในประเทศอื่นนอกจีนอยู่ที่ 5 คน ได้แก่ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และฝรั่งเศสแห่งละ 1 คน และมีผู้ติดเชื้อกว่า 500 คน
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ ทางการจีนนำพลเมืองมณฑลหูเป่ย์ 207 คนเดินทางจากสนามบินนานาชาติฮาเนดะในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นกลับถึงสนามบินนานาชาติอู่ฮั่นเทียนเหอแล้ว โดยมีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี