เรื่องของการยกเว้นภาษีอากรที่ถูกระบุไว้ในกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองการดำเนินงานของสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม ฉบับนี้ ที่สำคัญอีกเรื่องซึ่งอาจเป็นที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจของคนทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป หรือรองผู้จัดการทั่วไปของสำนักเลขานุการแอปเตอร์บางท่าน คือ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ หมายถึงเงินเดือนรายได้ต่างๆ ที่ผู้จัดการทั่วไป หรือรองผู้จัดการทั่วไปได้รับ กฎหมายกำหนดให้ไม่ต้องนำไปคำนวณเพื่อชำระภาษีสรรพากรครับ ซึ่งข้อยกเว้นดังกล่าวนี้องค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน ฟังดูแล้วน่ารื่นรมย์ทีเดียวสำหรับบางท่านที่อยากจะได้รับเงินรายได้ทั้งหมดแบบเป็นกอบเป็นกำ แต่ที่ไม่ถูกใจบางคนก็เดาเอาว่า เขาอาจจะมีสปิริตอยากจะจ่ายภาษีเพื่อช่วยชาติบ้านเมืองแต่ขาดโอกาสไป ทั้งนี้เพราะโดยทั่วไปตามที่กฎหมายไทยกำหนด คนสัญชาติไทยทุกคนที่มีรายได้ประจำมีหน้าที่เสียภาษี เรื่องนี้คนที่รับราชการมาย่อมทราบดี เพราะเงินเดือนที่ได้รับมาตลอดระยะเวลาการทำงานนั้นต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งเพื่อจ่ายเสียภาษีให้แก่รัฐ แม้แต่ตอนที่พ้นวัยทำงาน เกษียณอายุแล้ว ได้รับบำเหน็จบำนาญ ก็ยังต้องถูกตามไปเก็บภาษีอีก จนในที่สุดต้องหาวิธีลดภาษีโดยการหันไปซื้อกองทุนต่างๆ ก็น่าเห็นใจทีเดียวครับสำหรับมนุษย์เงินเดือน
แต่ตรงกันข้ามคนที่ทำงานผู้บริหารในสำนักเลขานุการแอปเตอร์ กฎหมายคุ้มครองแอปเตอร์กลับบอกว่าไม่ต้องเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคล ผมในฐานะคนไทยตอนแรกๆ ก็เสียใจครับที่เข้าใจว่าคงไม่ได้ทำหน้าที่พลเมืองไทยที่ดี เพราะทุกวันนี้มีรายได้จากบำนาญเดิมก็เสียภาษีอยู่ราว 5-10 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อนำมารวมกับเงินเดือนที่ได้จากแอปเตอร์ กลายเป็นว่าปีๆ หนึ่งคำนวณแล้วเสียภาษีต่ำกว่าขั้นสูงสูงเพียงขั้นเดียว (สูงสุด 37 เปอร์เซ็นต์) คิดไปว่าคงผิดหวังช่วยชาติในส่วนนี้ แต่ที่ไหนได้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกี่ยวกับการยกเว้นภาษีนั้น กฎหมายแอปเตอร์ข้างต้นระบุไว้ในวรรคสุดท้ายว่า “บทบัญญัติตามวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับบุคคลผู้มีสัญชาติไทย” ซึ่งหมายถึงการไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดานั้น ใช้เฉพาะกรณีที่ได้ผู้จัดการทั่วไป หรือรองผู้จัดการทั่วไปที่เป็นคนต่างชาติเท่านั้น (แต่มีข้อกำหนดแอปเตอร์อีกส่วนหนึ่งที่จำกัดเฉพาะคนสัญชาติอาเซียนบวกสามเท่านั้นที่สามารถสมัครเป็นเจ้าหน้าที่แอปเตอร์ได้) สรุปแล้วเลยกระผมเลยรอดตัวไป คือได้มีโอกาสชำระภาษีให้แก่ชาติบ้านเมืองเหมือนเดิมครับ แล้วก็แบบเป็นกอบเป็นกำเสียด้วยนะ..มีคนหมั่นไส้หรือเปล่า???
ที่พูดมายาวเลยนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตำแหน่งผู้บริหาร หมายถึง General Manager (GM) กับ Deputy GM นะครับ ไม่รวมเจ้าหน้าที่หรือสต๊าฟธรรมดาที่ทำงานในแอปเตอร์ที่มีอยู่ประมาณ 10 คน ที่ทุกคนจะต้องเสียภาษีตามกฎหมายทั่วไป แม้ว่าจะเป็นคนต่างชาติก็ตาม
อย่างไรก็ดี มีอีกตำแหน่งหนึ่งที่แอปเตอร์กำหนดไว้ให้สามารถมีได้ คือ ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ หรือ Expert ซึ่งได้แก่นักวิชาการระดับสูงของประเทศสมาชิกแอปเตอร์ที่ประสงค์จะมาช่วยงาน โดยการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากประเทศผู้สนับสนุน ปัจจุบันตั้งแต่เริ่มตั้งแอปเตอร์มา หรืออาจก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ เรามีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นครับ มีผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น ซึ่งสังกัดกะทรวงเกษตรป่าไม้และประมง นั่งอยู่ในออฟฟิศแอปเตอร์ตลอดเวลาทุกวันนี้ โดยเขามีระยะเวลาประจำอยู่กำหนดโดยประเทศเขาคนละ 2 ปี ก็น่าอิจฉาครับด้วยความที่มาจากประเทศผู้มั่งคั่ง นอกจากเงินเดือนที่สูงลิ่วได้พิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนเดิมในญี่ปุ่น เขายังได้เงินค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์เช่ารถประจำตำแหน่ง พร้อมคนขับ และอื่นๆ อีกจำนวนมากเท่และอู้ฟู่กว่าคนที่เป็น GM เสียอีกครับ ตอนนี้เห็นว่าทางเกาหลีใต้ และจีนก็กำลังสนใจที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาประจำแอปเตอร์บ้าง ถ้าส่งมาจริงทีนี่ละก้อ คงแข่งกันเท่จนตัว GM กลายเป็นมดไปอย่างแน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นท่านนี้ ไม่ได้รับการคุ้มครองยกเว้นภาษีรายได้ส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติข้างต้น แต่เขามีข้อตกลงระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่นว่าด้วยการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ก็เลยได้สิทธิ์ไม่ต้องจ่ายภาษีให้กับสรรพากรไทยเช่นเดียวกันครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี