นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการจัดระเบียบทางเท้าสาธารณะ โครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า พื้นที่เขตจตุจักร โดยมี ผู้บริหารสำนักเทศกิจ ผู้บริหารเขตจตุจักร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท้องที่และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย ณ จุดจับ-ปรับฯ บริเวณตรงข้ามสวนลุมไนท์บาซาร์ แยกรัชดาลาดพร้าว โดยกล่าวว่า กรุงเทพมหานครยังดำเนินการเข้มข้น โดยโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ถึงปัจจุบันจับปรับผู้กระทำผิดกรณีจอดขับขี่บนทางเท้ายอดปรับเป็นเงินรวม 27 ล้านบาท โดยเขตวัฒนา และวังทองหลาง มีผู้กระทำผิดยอดจับปรับสูงติดใน 5 อันดับแรก มียอดจับปรับเขตละ 3 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 50 เขตยังคงกวดขันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีผู้ฝ่าฝืนอยู่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ย้ำให้เข้มงวดมาตรการและกวดขันทุกพื้นที่ เพราะเป็นนโยบายที่ประชาชนเห็นด้วยกับกรุงเทพมหานคร ในการแก้ปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนกับคนใช้ทางเท้ามานาน
สำหรับมาตรการยึดเสื้อวิน เป็นการลงโทษผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่กระทำผิดขับขี่บนทางเท้านั้น ขณะนี้มีการจับปรับบันทึกข้อมูลไป 100 กว่ารายแล้ว ซึ่งหากมีการกระทำผิดซ้ำ 2 ครั้ง คณะอนุกรรมการประจำพื้นที่ก็จะถอดรายชื่อและยึดเสื้อวินเป็นเวลา 3 ปี โดยสำนักเทศกิจจัดทำเป็นฐานข้อมูล และแอพพลิเคชั่น ตรวจสอบและเก็บสถิติผู้กระทำผิด แยกอาชีพ และผู้กระทำผิดซ้ำเพื่อดำเนินการเพิ่มค่าปรับจาก 2,000 เป็น 3,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท หากเป็นจักรยานยนต์รับจ้างที่กระทำผิดซ้ำก็ดำเนินการตามมาตรการยึดเสื้อวิน โดยฐานข้อมูลนี้จะลิงค์กับกรมการขนส่งทางบกซึ่งได้ทำบันทึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ช่วยลดภาระและขั้นตอนการทำงานในการตรวจสอบข้อมูลผู้ครอบครองรถ เพื่อกรุงเทพมหานครดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี