สั่งเหล่าทัพเตรียมพร้อม
รับมือ‘โควิด-19’
ตั้งรพ.สนามดูแลผู้ป่วย
ไทยเตรียมยกระดับ
โรคติดต่อร้ายแรง
คนไทยบนเรือสำราญ
ติดเชื้อไวรัสเพิ่มอีก1
“อนุทิน” แจงเล็งยกระดับไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวกโดยเฉพาะการคัดกรอง แต่ไม่กระทบ ปชช.ยังใช้ชีวิตได้ปกติ สธ.สรุปผู้ป่วยไทยรักษาหายแล้ว 19 เหลือนอนรพ.อีก 16 ราย กรมวิทย์เผยเพาะเชื้อสำเร็จ พัฒนาต่อเป็นวัคซีน กรมแพทย์แผนไทยเร่งวิจัยฟ้าทะลายโจรฆ่าเชื้ออู่ฮั่น ขณะสภากห.สั่งเหล่าทัพรับมือสถานการณ์ระบาดระยะ3เตรียม35มทบ.ตั้งรพ.สนาม พื้นที่ควบคุม ‘บัวแก้ว’เตือนคนไทยเลี่ยงไปคาซัคสถาน เหตุมีคำสั่งกักโรคนักท่องเที่ยวจากไทย14วัน ทางการญี่ปุ่น เผยพบคนไทยบนเรือ Diamond Princess ติดเชื้อโควิด-19เพิ่มอีก 1 รวมเป็น 4 คนความคืบหน้ากรณีมีข่าวว่าภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะหารือเพื่อยกระดับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า โควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงนั้น
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว “Anutin Charnvirakul”เปิดเผยความคืบหน้าการยกระดับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า การออกประกาศว่าโรคใดเป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง จะทำเมื่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อมีมติแล้ว จึงนำเสนอให้รมว.สาธารณสุขลงนามในประกาศ ซึ่งในคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อส่วนใหญ่คือ แพทย์ผู้ชำนาญและมีประสบการณ์รับมือสถานการณ์เช่นนี้เป็นอย่างดี และหากต้องประกาศให้โรค COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายแล้ว ประชาชนทั่วไปก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
ยกระดับให้จนท.สธ.ทำงานคล่องตัว
สำหรับการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงนั้น เป็นฐานให้บังคับใช้ข้อกำหนดในกฎหมาย คือ พ.ร.บ.โรคติดต่อได้โดยสะดวก เมื่อจำเป็นเช่น การประกาศว่าเมืองใด ในประเทศใด เป็นเขตติดโรค เพื่อใช้มาตรการคัดกรอง หรือกักกันผู้เดินทางจากเมืองนั้นด้วยความเร่งด่วน ก็จะทำได้ทันที และการประกาศเรื่องนี้ สร้างความมั่นใจให้เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานว่ามีกฏหมายรองรับ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ย่อมได้รับคุ้มครองการปฏิบัติงาน หากทำไปด้วยเจตนารมณ์สุจริต ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคเหล่านี้
“สรุป การประกาศนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปฏิบัติงานได้คล่องตัวมากขึ้น ส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ไม่มีอะไรต้องหวั่นหรือวิตก ตื่นตัวแต่อย่าตื่นกลัว”นายอนุทินระบุ
หายป่วยแล้ว19 นอน รพ.16
วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมนพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ. ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงสถานการณ์ระบาดของชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนพ.โอภาสว่า มีข่าวดี ผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 รายเป็นชายชาวจีน อายุ 56 ปี และอายุ 34 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร เหลือนอนในโรงพยาบาล 16 คน รวมมีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 19 ราย ในส่วนผู้ป่วยใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด อาการคงที่ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ส่วนรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย ยังตรวจพบเชื้ออยู่ อาการคงที่ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง
วิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19
ด้านนพ. ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเผยว่า กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม โดยวันที่ 25 กุมภาพันธ์ จะมีการลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของสารสกัดฟ้าทะลายโจร รวมถึงสมุนไพรอื่น เพื่อดูกลไกประสิทธิภาพของสมุนไพรไทยต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเดิมได้มีการศึกษาเรื่องสารสกัดฟ้าทะลายโจรอยู่แล้วว่ามีฤทธิ์ในเชิง Antiviral broad spectrum เช่น ฤทธิ์การต้านไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือการต้านการอักเสบ ทำให้ใช้รักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ทั้งนี้ การวิจัยศึกษาการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของฟ้าทะลายโจรจะเริ่มทดลองในกลุ่มอาสาสมัคร 10 คนที่มีสุขภาพดี และจากนั้นมาทดลองในการเชื้อไวรัสโคโรนา คาดว่าภายใน 1 เดือนทราบผล ว่าฟ้าทะลายโจรได้ผลหรือไม่
ข่าวดีเพาะเชื้อเพื่อพัฒนาวัคซีนได้แล้ว
ขณะที่นพ.โอภาสกล่าวเพิ่มเติมถึงการพัฒนาหาวัคซีนป้องกันรักษาไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถเพาะเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาวัคซีนป้องกัน และยารักษาโรคนี้ได้ โดยจะร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การเภสัชกรรม และสถาบันวัคซีน ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
คนไทยบนเรือไดมอนปรินซ์เซสติดเชื้ออีก1
วันเดียวกัน นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลคนไทยบนเรือ Diamond Princess ที่ถูกกักบริเวณที่ท่าเรือโยโกฮามาของญี่ปุ่น ว่า ก่อนหน้านี้ตามที่มีรายงานว่า มีผู้โดยสารที่เป็นคนไทย 25 คน บนเรือ ในจำนวนนี้ ทางการญี่ปุ่นตรวจพบคนไทยบนเรือฯ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 คน เป็นผู้โดยสาร 1 คน และลูกเรือ 2 คนนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานล่าสุดจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวว่า มีลูกเรือคนไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน และทางการญี่ปุ่นส่งตัวไปรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว
“โดยสรุป ขณะนี้มีคนไทยบนเรือ Diamond Princess ติดเชื้อฯรวม 4 คน เป็นผู้โดยสาร 1 คน และลูกเรือ 3 คน ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด”โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
อีก20รอตรวจสุขภาพซ้ำ
สำหรับลูกเรือคนไทยที่ยังอยู่บนเรืออีก 20 คน สถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่าต้องได้รับการตรวจอีกรอบ เพื่อความมั่นใจด้านสุขภาพของลูกเรือ ก่อนเดินทางกลับ หากตรวจครั้งที่ 2 แล้วไม่ติดเชื้อ ก็จะได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือได้ โดยบริษัทเรือจะรับผิดชอบเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ลูกเรือเดินทางกลับประเทศ อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อผู้โดยสารและลูกเรือชาวไทยโดยตลอด และประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับการดูแลคนไทยบนเรือดังกล่าว
คาซัคฯสั่งกักคนเดินทางปท.ที่ระบาด
อีกด้านหนึ่งเว็บไซต์ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานาของคาซัคสถาน ประกาศเรื่อง มาตรการกักกันโรคสำหรับบุคคลที่เดินทางจากประเทศไทย โดยระบุว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 รัฐบาลคาซัคสถานลงนามคำสั่งจำแนกบุคคลที่เดินทางเข้าสู่สาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นสามกลุ่ม ซึ่งจะมีมาตรการในกักกันตัวบุคคล ดังนี้ กลุ่มที่1 :กลุ่มคนที่เดินทางจากจีน ต้องถูกกักกันที่ทางการคาซัคสถานกำหนด 14 วัน เมื่อพ้นจากการกักกันแล้ว จะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัยอีก 10 วัน กลุ่มที่ 2 :กลุ่มคนที่เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19มากกว่า10 กรณี ได้แก่ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ต้องถูกกักกันบริเวณที่พักของตน 14วัน โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์มาตรวจอาการที่ที่พักเป็นประจำทุกวัน และเมื่อพ้นจากการกักกันที่ที่พักแล้ว ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัยอีก 10 วัน (ทางโทรศัพท์) และกลุ่มที่ 3 :กลุ่มคนที่เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น้อยกว่า 10 กรณี ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แคนาดา อินเดีย ฟิลิปปินส์ อิตาลี สเปน ฟินแลนด์ เนปาล กัมพูชา ศรีลังกา สวีเดน เบลเยียม อียิปต์ ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของสถานพยาบาลที่ใกล้ที่อยู่อาศัย 24 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงคาซัคสถาน (ทางโทรศัพท์) ทั้งนี้ รายชื่อประเทศในกลุ่มต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
สถานทูตแนะเลี่ยงไปคาซัคสถาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 รัฐบาลคาซัคสถานได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติม ดังนี้ สำหรับบุคคลที่เดินทางมายังคาซัคสถานจากประเทศในกลุ่มต่างๆ ข้างต้นโดยใช้เวลาพำนักอยู่ในคาซัคสถานน้อยกว่าเวลาการกักกันที่กำหนดสำหรับกลุ่มประเทศนั้น รัฐบาลคาซัคสถานจะกักกันตัวบุคคลนั้น ตลอดช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในคาซัคสถาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการเพื่อบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังสาธารณรัฐคาซัคสถานหากไม่มีความจำเป็น และสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามสถานการณ์การออกมาตรการที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลคาซัคสถานต่อไป
กห.สั่งเหล่าทัพเตรียม35มทบ.ตั้งรพ.สนาม
ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฝากให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ขอบคุณกองทัพเรือที่สนับสนุนอาคารรับรองใช้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังเชื้อโควิด-19 ของคนไทยที่เดินทางกลับจากอู่ฮั่นของจีน พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภารกิจดังกล่าว นอกจากนั้น ได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมเตรียมพร้อมศูนย์แพทย์อาเซียนรองรับการเพิ่มระดับความร่วมมือของกลไกศูนย์แพทย์อาเซียน ในการฝึกปฏิบัติร่วมกัน เป็นไปตามแถลงการณ์ร่วมด้านความมั่นคงว่าด้วยการรับมือกับโรคระบาดที่ได้ประชุมกันไว้ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ทุกเหล่าทัพพร้อมมาตรการยกระดับการทำงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ปัญหาโรคระบาดของกระทรวงกลาโหม เพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขโดยมอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยประสานการปฏิบัติ .เพิ่มช่องทางการรับรู้ของประชาชนในการป้องกันและดูแลตัวเองให้มากขึ้น ให้กองกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มมาตรการการคัดกรองพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง กำชับให้มณฑลทหารบกทั้ง35แห่งโรงพยาบาลเหล่าทัพสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยรวมทั้งเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับ เตรียมพื้นที่หน่วยทหารอาจเป็นในหน่วยมณฑลทหารบกเพื่อรองรับการควบคุมและรักษาผู้ติดเชื้อ หากสถานการณ์ระบาดเกินการควบคุมเข้าสู่ระยะที่ 3พร้อมขอให้กองทัพอากาศประสานกับอดีตนักบินเพื่อเตรียมพร้อมเพื่อไปรักคนไทยที่อู่ฮั่น
จีนตายสะสมต่ำกว่าพันคนวันที่สอง
ส่วนคณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติจีน หรือเอ็นเอชซี เปิดเผยสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นว่า จำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่ 118 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมรวมแล้ว 2,247 ราย ส่วนผู้ป่วยจากการติดเชื้อรายใหม่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มี 899 ราย จากที่เคยมีผุ้ติดเชื้อใหม่วันละมากกว่า 1,000 คน ทุกวันต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมรวมแล้ว 76,716 ราย ด้านผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนมีอาการหายดีมีจำนวนสะสม 18,438 ราย ทั้งนี้ การลดลงของจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในจีนยังค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากทางการได้เปลี่ยนวิธีการรายงานสถิติใหม่ โดยกลับไปยึดเฉพาะกรณีที่ได้รับการยืนยันจากผลทดสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น จากที่ก่อนหน้านี้เคยรายงานทั้งกรณีที่ได้รับการยืนยันจากผลทดสอบในห้องปฏิบัติการ และกรณีที่ประเมินจากคลินิก เช่น การเอ็กซเรย์ปอด
เกาหลีใต้ประกาศเขตควบคุมพิเศษ
สำหรับสถานการณ์ระบาดในเกาหลีใต้ นายปัก วอนซุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลแถลงหลังการแพร่ะระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้นเป็นอันดับที่สองรองจากจีนว่า จะห้ามใช้จัตุรัสโซล จัตุรัสช็องกเย และจัตุรัสควางฮวามุน เพื่อปกป้องผู้สูงอายุที่เสี่ยงโรคติดต่อ ทางการจะแจ้งไปยังองค์กรที่เตรียมจัดการชุมนุมใหญ่ตามจัตุรัสเหล่านี้ช่วงสุดสัปดาห์ และจะหารือกับสำนักงานตำรวจกรุงโซลด้วย กฎหมายสุขภาพกรุงโซลอนุญาตให้ห้ามการชุมนุมในเขตเมืองด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุข ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับสูงสุด 3 ล้านวอน หรือประมาณ 78,660 บาท ขณะที่นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า จะประกาศให้เมืองแดกูและเทศมณฑลชองโดที่อยู่ติดกันเป็นเขตดูแลพิเศษ เพื่อเร่งหาผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อแล้วให้การรักษาโดยเร็วที่สุด.
30ปท.ทั่วโลกติดเชื้อ7.6หมื่นตาย2.2พัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา17.00น.ผู้สื่อข่าวรายงานสรุปสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ว่าขณะนี้มีการระบาดทั้งหมด 30 ประเทศ มีผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด76,792 เสียชีวิต 2,247ราย รักษาหายแล้ว 18,590ราย โดยในจีน มีผู้ป่วยติดเชื้อ75,467 ราย เสียชีวิต 2,236 ราย บนเรือสำราญไดมอนพรินส์ มีผู้ติดเชื้อ 634 ราย เสียชีวิต 2 ราย เกาหลีใต้ ติดเชื้อ 204 ราย เสียชีวิต 1 ราย ญี่ปุ่น ติดเชื้อ 97 ราย เสียชีวิต 1 สิงคโปร์ ติดเชื้อ 85ราย ฮ่องกง ติดเชื้อ 69 เสียชีวิต 2 ไทย ติดเชื้อ 35 ราย สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ 27 ไต้หวัน ติดเชื้อ 26 ราย เสียชีวิต 1ราย มาเลเซียติดเชื้อ 22 ราย เวียดนามติดเชื้อ16ราย เยอรมนี ติดเชื้อ 16 ราย ออสเตรเลียติดเชื้อ 17 ราย สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ 27ราย ฝรั่งเศสติดเชื้อ 12ราย เสียชีวิต 1 ราย มาเก๊า ติดเชื้อ 10ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ติดเชื้อ 9ราย สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ9ราย แคนาดา ติดเชื้อ9 ราย ฟิลิปปินส์ ติดเชื้อ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี