27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป และคณะร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19(COVID-19) ประจำวันนี้ ประเทศไทยมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 26 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,064 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 76 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,988 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,352 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 712 ราย ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกใน 46 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 27 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 81,406 ราย เสียชีวิต 2,771 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 78,073 ราย (เพิ่มขึ้น 414 ราย) รายเสียชีวิต 2,715 ราย (เพิ่มขึ้น 123 ราย)
ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ข่าวดีวันนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 3 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้โดยรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร 2 ราย เป็นชายจีน อายุ 63 ปี และชายไทย อายุ 49 ปี ส่วนอีก1ราย จากโรงพยาบาลราชวิถี เป็นหญิงจีน อายุ 33 ปี ทั้งนี้ คนจีน 2 รายเข้ามาประเทศไทยช่วงก่อนที่ประเทศจีนจะประกาศปิดสนามบิน ส่วนคนไทยมีประวัติการเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ดังนั้น ไทยมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 27 ราย คิดเป็น 67% ยอดรวมผู้ป่วยสะสม 40 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้กลับบ้านในเร็วๆนี้
สำหรับความคืบหน้าการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับกลุ่มผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย ปู่-ย่าที่กลับจากเที่ยวเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และแพร่เชื้อสู่หลานชายวัย 8 ปีนั้น มีผู้สัมผัสเกี่ยวข้อง ได้แก่ กลุ่มกรุ๊ปทัวร์และครู-นักเรียนในโรงเรียนของหลานชาย รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลบี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ที่ให้การรักษาคุณปู่วัย 65 ปี ได้แก่ คนในครอบครัว เพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์ บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อนร่วมชั้นเรียน มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 101 คน ขณะนี้ติดตามได้ครบทุกคนแล้ว ผลตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ(Lab) 97 คน ผลตรวจสอบหาเชื้อออกมาเป็นลบ ขณะที่อีก 4 คนอยู่ระหว่างรอผล
ด้านนายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอฝากสื่อแจ้งข่าวสารไปยังประชาชนว่าโรคไวรัส โคโรนา 2019 ไม่ใช่เป็นโรคที่คนเป็นจะได้รับความรังเกียจหรือน่ากลัวจากเจ้าหน้าที่ เพราะโรคนี้มีอัตราการตายเพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเป็นโรคที่มีการติดต่อได้ง่าย ซึ่งหากรู้เร็วก็จะช่วยให้รักษาผู้ป่วยให้หายได้เร็วมากขึ้นด้วย และยังลดการแพร่เชื้อและจำนวนผู้ติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น ที่สำคัญขอแจ้งให้ทราบว่ากระทรวงสาธารณสุขให้การรักษาผู้ที่ป่วยโรคไวรัสโควิด-19 ทุกคนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
การที่ปรากฏข้อความระบายและต่อว่าอย่างมากต่อครอบครัวปู่-ย่าที่กลับจากฮอกไกโด ผ่านทางโซเชียลนั้น ผมอยากขอให้เราถือว่ามีหัวอกเดียวกัน เพราะไม่มีใครที่อยากเจ็บป่วย ไม่มีการแบ่งแยก กีดกัน ซึ่งจะเหมือนครั้งที่มีโรค HIV เข้ามาในระยะแรก คนก็เกิดการตื่นตระหนกในลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้กระทบต่อผู้ป่วยไม่มีที่ยืน เราควรจะให้กำลังใจกัน เพราะต่างชาติเข้ามาป่วยที่ไทยยังได้รับความเห็นใจได้รับการรักษาจนหาย" นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวอีกว่าจากกรณีที่เกิดเหตุปู่-ย่า ทำให้มีประชาชนจำนวนกว่า 1,300 สาย โทรมายังสายด่วน 1422 และยังมีสายมิสคอล อีกจำนวนเท่าตัวนั้น ดังนั้น จะได้มีการเพิ่มช่องทางการให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ประชาชนที่แชทบอร์ดและและ Application Lineด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี