‘ตม.สุราษฎร์ธานี’รวบคารถตู้ ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวปลอมพาสฯ รับหัวละ2พัน
3 มีนาคม 2563 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 (ผบก.ตม.6) , พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบก.ตม.6 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ตม.จว.สุราษฎร์ธานี) นำโดย พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท. ชาตรี ชูแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ(BMW) ออกตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อใช้งานเครื่อง Tablet, เครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศประจำรถยนต์ เพื่อการประชาสัมพันธ์และตรวจสอบการกระทำความผิดของคนต่างด้าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) ออกสืบสวนหาข่าวการลักลอบขนคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมายและได้ทำการจับกุมตัว 1.นายสาโรจน์ รักดี อายุ 39 ปี สัญชาติไทย คนขับรถตู้ 2.MR.PHON MYINT AUNG (พน มิน อาว) อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา 3.MR.KON BALAI (คอน บา ไล) อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา 4.MS.SU MYINT MON (ซู เมี๊ยะ มอน ) อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา 5.MS.SAN MYINT(ซาน มิน) อายุ 38 ปี สัญชาติเมียนมา 6.MR.SAN HBOO (ซาน ฮบู) อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา 7.MR.WIN AUNG(วิน อาว) อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา 8.MR.MYO LWIN (เมียว วิน) อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา และ 9.MR.LWIN KO (วิน โก) อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมา
โดยกล่าวหา นายสาโรจน์ รักดี อายุ 39 ปี สัญชาติไทย คนขับรถตู้ ว่า “รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม , มีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบกและใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ”
ส่วนชาวเมียนมา กล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต",ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน",ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปักตรวจลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศปลอม,ใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
ทั้งนี้ จับกุมได้ที่สี่แยกบ้านนาเดิม ถนนหลวงหมาเลข 41 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7คน(รถตู้) หมายเลขทะเบียน ฮว-5574 กทม. ซึ่งนายสาโรจน์ เป็นผู้ขับขี่ และหนังสือเดินทางประเทศเมียนมาปลอม จำนวน 9 เล่ม อยู่ที่ตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมา คนละ 1 เล่ม และอยู่ที่เก็บของภายในรถอีก 1 เล่ม
นายสาโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 เวลา 04.00 น.ได้ไปรับแรงงานเมียนมาจำนวน 9 คน จากบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี 1 คน และไปส่งที่ จ.สงขลา อีก 8 คน โดย ได้ค่าจ้างขนแรงงานคนละ 2,200 บาท เมื่อมาถึง อ.ไชยา จึงส่งแรงงานเมียนมาผู้หญิงลง 1 คน แต่ได้นำหนังสือเดินทางของหญิงดังกล่าวกลับมาด้วย โดยเก็บไว้ที่เก็บของภายในรถและออกเดินทางไป จ.สงขลา แต่เมื่อถึง อ.บ้านนาเดิม มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ขอตรวจสอบภายในรถ จึงไถูกจับกุมพร้อมแรงงานเมียนมา อีก 8 คน ซึ่งนั่งโดยสารมาภายในรถ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมยึดของกลาง และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาเดิม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ที่ให้เข้มงวดกวดขันในการกระทำความผิดของคนต่างด้าวตลอดจนคนไทยและคนต่างชาติอื่นๆที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะมีผลต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย โดยในกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำเกี่ยวกับเรื่องคนไทยได้ นำพาคนต่างด้าวและให้ที่พักพิงช่วยเหลือคนต่างด้าว ในการกระทำความผิด ถือว่า เป็นภัยอีกรูปแบบหนึ่งที่กระทบกระเทือนต่อความ มันคงปลอดภัยของประเทศไทย โดยจะต้องเร่งตรวจตราจับกุม เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป โดยประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ หากพบเห็นการกระทำความผิด หรือต้องการแจ้งเบาะแสในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเกาะสมุย และเกาะต่างๆที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีสามารถแจ้งได้ที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกจุด ที่มีที่ทำการไว้ หรือสายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1178 ได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี