เข้ม!รับ‘ผีน้อย’2เมืองเกาหลี
กักตัว14วัน
‘บิ๊กตู่’สั่งหาสถานที่รองรับ
มาจาก‘แทกู-คยองซังเหนือ’
ส่วนที่อื่นส่งกลับภูมิลำเนา
พร้อมติดตามดูแลใกล้ชิด
แม่ทัพภาค2พร้อมเปิดพื้นที่
ยอดป่วยทั่วโลก9.3หมื่น
นายกฯ ลั่นต้องกักตัว“ผีน้อย”กลับจาก“แทกู”และ“คยองซัง-เหนือ”2 เมืองเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ของเกาหลีใต้ เป็นเวลา 14 วัน ในพื้นที่ควบคุมของรัฐ ไม่ยอมให้ควบคุมตัวเองที่บ้าน ส่วนคนจากเมืองอื่นหากไม่พบไข้ให้กักตัวในพื้นที่ตามภูมิลำเนา พร้อมติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด เผยกำลังหาพื้นที่รองรับเตรียมทีมแพทย์ดูแล มท.1 สั่งผู้ว่าฯ บูรณาการทุกภาคส่วน หาพื้นที่กักตัวอย่างเหมาะสม พร้อมจัดรถรอส่งกลับบ้าน รองโฆษก สตม.เผยผีน้อยกลับไทย 158 คน พบมีไข้ 17 คน เบื้องต้นไม่พบเชื้อไวรัสมรณะ“สมศักดิ์”โยนกระทรวงสาธารณสุขหารือศาลยุติธรรมใช้กำไลอีเอ็มควบคุม“ผีน้อย”
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 4 มีนาคม ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานการประชุมจัดเตรียมมาตรการเร่งด่วนเพื่อรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่าในช่วงที่ผ่านมาเราดูแลได้มากพอสมควร ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต หรือการควบคุมของไทยอยู่ในลำดับที่ 17 จาก 75 ประเทศที่มีแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกถือว่ายอดมีจำนวนไม่มากนักตามตัวเลขเชิงบริหาร เรามีมาตรการต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมทุกระดับ และตนให้ความสำคัญสิ่งที่ประชาชนห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องผีน้อย หรือแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ที่จะเดินทางกลับ ทุกคนเป็นห่วงเรื่องการกักตัวที่บ้าน
ตรวจสอบไปแล้วกว่า3ล้านคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีมาตรการออกมา ตนได้สั่งการไปแล้วว่า เราจะดูพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทุกประเทศทั่วโลก มาตรการคัดกรองทั่วไปที่ดำเนินการอยู่ คือ ที่สนามบิน ท่าเรือ ชายแดน ด่านตรวจต่างๆ ทั้งหมด มีการตรวจสอบไปแล้วจำนวนกว่า 3 ล้านคน ในช่วงที่มีการระบาดมีการคัดกรองเข้าสู่การรักษา กักตัวอีกส่วนหนึ่งเพื่อดูอาการ สิ่งที่ได้ประชุมและหารือวันนี้ คือ เตรียมการรองรับในเรื่องผีน้อย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยที่ไปทำงานในเกาหลีใต้จำนวนมาก ทั้งถูกและผิดกฎหมาย ถือเป็นคนไทยทั้งสิ้น เราต้องดำเนินมาตรการไม่ให้ส่งผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นในระบบสาธารณสุขของไทย
ต้องคัดกรองตั้งแต่ประเทศต้นทาง
โดยที่ประชุมได้หารือถึงต้นทาง คือ กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยาน กระทรวงการต่างประเทศ ต้องตรวจสอบคัดกรองให้มีมาตรฐานมาตั้งแต่ประเทศต้นทาง โดยต้องมีการรับรองว่าไม่ติดโรคอะไรต่างๆ มาในชั้นต้นก่อน และทุกสายการบินต้องปฏิบัติตามนี้ ทุกสายการบินตรวจสอบอยู่แล้วว่าใครมีไข้จะไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่อง แต่หากหลุดขึ้นมาแล้วเป็นไข้บนเครื่องบิน เขาจะต้องแยกที่นั่ง และใช้ห้องน้ำพิเศษแยกออกจากกัน มีการใช้หน้ากากอนามัย ทั้งหมดต้องมีมาตรการดูแลบนเครื่องบินด้วย
ถ้ามีไข้ก็ไม่ให้ขึ้นเครื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เอาง่ายๆ คือถ้ามีไข้ เขาไม่ให้ขึ้นเครื่อง โดยมีมาตรการการคัดกรองจากต้นทาง โดยเฉพาะจากเมืองที่มีปัญหา กระทรวงต่างประเทศยกระดับการพูดคุยระดับรัฐมนตรีของทุกประเทศ เมื่อลงมาถึงสนามบินแล้ว ก็จะมีด่านตรวจและผ่านมาตรการการรับรองด่านตรวจโรค โดยผ่านกล้อง 3 ระดับ ต่อไปจะมีการคัดกรองจากเมืองที่มีปัญหาที่สุดเข้าช่องทางที่จะต้องตรวจสอบโดยละเอียด และเมื่อผ่านการคัดกรองในจุดเหล่านี้แล้ว จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการคัดแยกผู้มีไข้-ไม่มีไข้ คนที่มีไข้ต้องเข้าสู่พื้นที่กักกันของรัฐ เรียกว่า “พื้นที่ควบคุมโรค” จะมีการควบคุมในพื้นที่ของรัฐ ขณะนี้ดำเนินการอยู่แล้ว มีผู้อยู่ในพื้นที่ควบคุมประมาณ 30 กว่าคน รัฐบาลต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน
มาตรการคัดกรองรัดกุม
ส่วนที่คนไทยเป็นกังวลเรื่องผีน้อยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบไปยังประเทศต้นทาง สามารถทำได้อยู่แล้วก็จะมีการคัดกรองจากด่าน ตม.ของเกาหลีใต้ว่า คนเหล่านี้มาจากเมืองไหน มีความเสี่ยงอย่างไร แล้วจะกลับภูมิลำเนาที่ใด เมื่อเดินทางผ่านเข้ามาเราจะดำเนินการให้รัดกุม โดยเฉพาะผีน้อย พื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด คือ เมืองแดกู และจังหวัดคยองซัง-เหนือ ที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดของเกาหลีใต้ ดังนั้น คนที่มาจากสองเมืองนี้จะต้องถูกควบคุม ไม่มีการให้กลับไปควบคุมที่บ้าน ก็น่าจะสบายใจกันขึ้นแล้ว โดยจะมีพื้นที่ในการควบคุมคนเหล่านี้ มีแพทย์เข้าไปดูแล จะทำในมาตรฐานที่เราควบคุมในปัจจุบัน แต่ต้องหาพื้นที่ควบคุมเพิ่มเติม อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นพื้นที่ใด และต้องมีการรายงานตัวและรายงานผลทั้งหมด จะมีการใช้แอปพลิเคชันเข้ามาร่วมด้วย รวมถึงแพทย์ทหาร แพทย์เคลื่อนที่เร็วเข้ามาช่วยดูแลด้วย เพราะเราต้องเตรียมความพร้อมให้มากกว่า เนื่องจากมีคนทยอยเข้ามามากขึ้น
ยันชัดต้องควบคุมตัวไว้14วัน
“อย่างไรก็ตาม การเข้ามาคงจะไม่เข้ามาทีเดียว 4-5 พันคน เป็นการทยอยเข้ามา โดยผ่านมาตรการควบคุมของเกาหลีใต้ สายการบิน จนมาถึงการคัดกรองของไทย ดังนั้น ทุกคนที่มาจากสองเมืองดังกล่าวจะต้องถูกควบคุม 14 วัน ย้ำอีกครั้งว่าไม่มีควบคุมที่บ้านเพื่อลดการแพร่กระจายไปในพื้นที่ต่าง เราจำเป็นต้องแก้ไขไปทีละขั้นตอน สิ่งสำคัญที่สุด ทำอย่างไรคนไทยจะปลอดภัยมากที่สุด และมีความเชื่อมั่น” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ในส่วนของผู้ที่เดินทางกลับจากเมืองอื่นๆ ของเกาหลีใต้ก็จะมีขั้นตอนคัดกรอง ถ้าเป็นไข้ก็จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็กอาการและกักตัวไว้ ส่วนผู้ที่ไม่มีไข้จะส่งไปยังพื้นที่ควบคุมตามภูมิลำเนาเป็นเวลา 14 วัน โดยกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดหาสถานที่รองรับในลักษณะพื้นที่จำกัด เช่น สนามกีฬา เป็นต้น
อธิบดีกรมควบคุมโรคขออย่าตีตราผีน้อย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงภายหลังการประชุมฯ ว่า ในส่วนของผีน้อยที่จะเดินทางกลับมานั้น ไทยได้มีมาตรการในการควบคุมและป้องกันชัดเจนอยู่แล้ว ขออย่าให้คนไทยแตกตื่นจนกระทั่งไปตีตราคนกลุ่มนี้ เพราะล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ในการเตรียมการสำหรับการทยอยเดินทางกลับของคนกลุ่มนี้ เมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สนามบิน และสายการบิน จะร่วมมือกับ สธ.ในการคัดกรองอย่างเข้มข้น หากพบผู้มีที่มีอาการไข้ จะแยกไปกักตัวในโรงพยาบาลทันที และเข้าสู่การขั้นตอนวินิจฉัย ดูแลรักษา พิสูจน์โรคโควิด –19 เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค
จัดเตรียมสถานที่กักตัวเรียบร้อยแล้ว
ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการไข้ในกรณีที่เดินทางกลับมา 2 เมืองในเกาหลีใต้ คือ แดกู กับคยองซัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดนั้น จะถูกกักตัวในพื้นที่จัดพิเศษ หรือพื้นที่ควบคุมโรคตามที่รัฐบาลกำหนด ส่วนกรณีเดินทางมาจากเมืองอื่น จะประสานนำส่งกลับไปยังพื้นที่ภูมิลำเนา โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้บริหารจัดการภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องรอง ประเด็นหลักคือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัย ส่วนเรื่องสถานที่ที่ใช้กักตัว ขณะนี้นายกฯได้สั่งการให้ส่วนราชการทุกภาคส่วน โดยให้ สธ.จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาสถานที่ให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ยืนยันว่าได้มีการจัดเตรียมสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่จะเลือกพื้นที่ไหนเท่านั้นเอง
158ผีน้อยกลับไทย มีไข้17คน
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา มีแรงงานไทยที่ถูกผลักดันจากประเทศเกาหลีใต้กลับมายังประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยาน 3 แห่ง รวม 158 ราย แบ่งเป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 107 คน สงสัยติดเชื้อ เนื่องจากมีไข้สูง 17 คน ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อตรวจสอบหาเชื้อโควิด-19 และ ผ่านด่านตรวจคัดกรองปกติ 90 คน ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานดอนเมือง 50 คน ไม่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ และทางด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต 1 คน ไม่มีอาการต้องสงสัยติดเชื้อ แต่ทั้งหมด ต้องทำการกักตัวที่บ้านพักเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน ส่วนคนจีน 4 คน ที่เดินทางมาจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน และผ่านไทยเพื่อต่อเครื่องบินไปยังเมืองเฉินตูของจีนแต่ถูกปฏิเสธขึ้นเครื่องนั้น ถูกส่งต่อไปเฝ้าระวังอาการที่สถาบันบำราศนราดูรแล้ว
รายงานข่าวจาก สตม. ระบุว่า ยอดผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเนื่องจากมีไข้สูงที่เดินทางมาในวันดังกล่าวทั้งสิ้น 17 ราย และผ่านด่านตามปกติ 141 ราย และล่าสุดมีรายงานข่าวจาก สตม.แจ้งว่า ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของผู้ต้องสงสัย 17 รายนี้จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ปรากฏว่าไม่พบเชื้อดังกล่าวแต่อย่างใด
มหาดไทย”สั่งผู้ว่าฯหาที่กักตัว
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า หลังจากมีข้อสั่งการด่วนจากนายกรัฐมนตรีในเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการทุกหน่วยงาน ในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด- 19 ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ และต้องเข้ารับการกักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคนั้น ในขณะนี้กระทรวงมหาดไทยสั่งการไปยังทุกจังหวัดให้หาพื้นที่ ชุมชน ที่เหมาะสม เชื่อว่าจะดำเนินการได้ทันที เพราะมีแผนรองรับอยู่แล้ว ตั้งแต่กลไกลด้านสาธารณสุขจังหวัด จนถึงระดับตำบลและหมู่บ้าน ที่มี อสม. ประจำพื้นที่ดูแลอยู่ โดยหลังการประชุม ได้มอบหมายให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เร่งประสานไปยังทุกจังหวัด ให้เตรียมความพร้อมไว้
คมนาคมคัดกรองเข้มผีน้อยกลับไทย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขั้นตอนการเตรียมการรองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐเกาหลี โดยแบ่งผู้โดยสารออกเป็น 2 กลุ่ม คือ คนไทย และคนเกาหลี ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะได้จัดหลุมจอดแยกที่ท่าอากาศยานที่เที่ยวบินเดินทางเข้ามาจากสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้ผู้โดยสารขาเข้าผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ สธ.ที่ด่านควบคุมโรค ในบริเวณที่จัดไว้สำหรับเป็นพื้นที่คัดกรอง ในส่วนของ ทอท. มีการจัดเครื่อง Thermoscan คัดกรองผู้โดยสาร 3 จุด คือ บริเวณหน้า Gate, หน้าด่าน ตม. และด่านศุลกากร และหากกรณีพบผู้โดยสารมีอาการป่วยมีไข้ทาง สธ. จะดำเนินการต่อผู้ป่วยตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่ สธ. กำหนด ในส่วนกรณีผู้โดยสารไม่มีอาการป่วย ไม่มีไข้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะจัดรถส่งผู้โดยสารกลับภูมิลำเนา เมื่อถึงภูมิลำเนาจะมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวัง
ดอนเมืองพบ3ผู้โดยสารเข้าข่ายเฝ้าระวัง
นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า ทอท. ได้รายงานผลการคัดกรองผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบ โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ทอท.ได้ทำการคัดกรองผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งขาเข้าและขาออก และผู้โดยสารภายในประเทศขาออกจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 106,528 คน พบผู้โดยสารและลูกเรือที่มีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวังที่จุดคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 3 รายได้แก่ 1.ผู้ชายชาวจีน อายุ 36 ปี เดินทางมาจากเมืองคุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน 2.ชายชาวญี่ปุ่น อายุ 65 ปี เดินทางมาจากเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น และ 3.ชายชาวไทย อายุ 39 ปี เดินทางมาจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ทั้งหมดถูกนําส่งไปดูแลที่สถาบันบําราศนราดูรแล้ว
มทภ.2 พร้อมเปิด10 มทบ.รับผีน้อย
พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกระแสข่าว รัฐบาลเตรียมใช้โรงพยาบาลทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 รองรับแรงงานไทยกลับจากเกาหลีใต้ว่า ยังไม่ได้รับการประสานงานมาจากส่วนกลาง แต่เรามีความพร้อมเพราะมีโรงพยาบาลทหารทั้ง 10 มณฑลทหารบก (มทบ.) แต่หากมีเป็นจำนวนมาก อาจจะเปิดค่ายทหารรองรับ โดย มทบ.ทั้ง 10 แห่งประกอบด้วย มทบ. 21 รับผิดชอบ จ.นครพนม และจ.ชัยภูมิ ,มทบ.22 รับผิดชอบ จ.อุบลราชธานี, จ.อำนาจเจริญ, มทบ.23 รับผิดชอบ จ.ขอนแก่น,จ.กาฬสินธุ์,มทบ.24 รับผิดชอบ จ.อุดรธานี จ.นครราชสีมา, มทบ.25 รับผิดชอบ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ, มทบ.26 รับผิดชอบ จ.มหาสารคาม จ.บุรีรัมย์,มทบ.27 รับผิดชอบ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร, มทบ.28 รับผิดชอบ จ.เลย จ. หนองบัวลำภู,มทบ.29 รับผิดชอบ จ.บึงกาฬ จ.สกลนคร และมทบ.210 รับผิดชอบ จ.นครพนม จ.มหาสารคาม
“อนุทิน”ชี้ต้องวางแผนรอบคอบ
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมรับมือการเดินทางกลับไทยของกลุ่มผีน้อยว่า ต้องขอความร่วมมือกันจากทุกฝ่ายว่าจะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เป็นโจทย์ใหม่ต้องใช้เวลาวางแผนให้รอบคอบ
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านเสนอให้ออกพระราชกำหนดเกี่ยวข้องกับภัยสาธารณะ ว่าด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อฉบับเร่งด่วนจะสามารถทำได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน
ไทยอันดับ 17 โลก ไร้ผู้ป่วยรายใหม่
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า วันนี้ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 43 ราย อาการหนัก 1 ราย ทำให้ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง สะสมทั้งหมด 3,680 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,435 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,545 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกใน 75 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 92,321 ราย เสียชีวิต 3,137ราย ซึ่งประเทศไทยยังคงเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อชะลอไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง
“สมศักดิ์”โยนสธ.หารือศาลใช้กำไลEM
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้นำกำไลอีเอ็ม (EM) อุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิคส์ มาใช้กับกลุ่มผีน้อย หรือแรงงานที่ลักลอบทำงานในประเทศเกาหลีใต้ ว่าคงต้องเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขไปหารือกับสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวที่มีกำไลอีเอ็ม เนื่องจากกำไลอีเอ็มของกระทรวงยุติธรรมถูกยกเลิกสัญญาหลังตรวจสอบพบอุปกรณ์บกพร่อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อมในการประกวดราคา คาดว่าจะประกาศผ่านเว็บไซต์เชิญชวนผู้ประกอบการให้เข้าร่วมประกวดราคาได้กลางเดือนมีนาคมนี้
ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-สหรัฐฯยอดพุ่งต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของต่างประเทศนั้น ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 1,000 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญไดมอนส์ ปรินเซส ที่จอดเทียบท่าอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ใกล้กรุงโตเกียว ถึง 706 คน ยอดผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลท้องถิ่นญี่ปุ่นรวบรวมไว้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 12 ราย
ส่วนเกาหลีใต้ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 516 คน ทำให้ยอดรวมขณะนี้อยู่ที่ 5,328 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 32 คน นับเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่สุดนอกประเทศจีน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐ (ซีดีซี) รายงานว่า ผู้ป่วยสะสมในประเทศมีจำนวนอย่างน้อย 122 คน และรักษาหายอย่างน้อย 9 คน แต่เสียชีวิตแล้ว 9 คน โดยผู้เสียชีวิตทุกคนอยู่ในรัฐวอชิงตัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งกำลังเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆทั่วโลก ในช่วงค่ำวันที่ 4 มีนาคม 2563 มียอดผู้ติดเชื้อรวม 93,526 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 3,204 ราย รักษาหายรวม 51,031 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี