ในขณะที่ประชาชนทั่วโลกตื่นตระหนกกับโรคไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ หาวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันจากการรับเชื้อทางอากาศด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการป้องกันในเบื้องต้น แต่ในปัจจุบันได้เกิดปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาด และมีราคาแพงกว่าปกติมาก ทำให้หลายคนหันมาสนใจที่จะเรียนรู้การเย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้าใช้เอง ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นควันและเชื้อโควิด-19 ได้ในระดับหนึ่ง และเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือนไปในตัว เนื่องจากใช้เสร็จแล้วสามารถนำไปซักแล้วนำกลับมาใช้ได้อีก
เช่นที่ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม หมู่ที่ 3 ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมี พระพรชัย สิริภัทโท อายุ 61 ปี พระลูกวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ซึ่งมีฝีมือในการตัดเย็บได้ทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าแจกญาติโยม เด็กเล็ก ในขณะที่บิณฑบาต และแจกชาวบ้านที่มาวัด
พระพรชัย เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนที่จะบวชนั้นตนเป็นช่างซ่อมจักรและเคยรับจ้างเย็บผ้า มาในช่วงนี้ที่ชาวบ้านหันมาสนใจสุขภาพหาซื้อหน้ากากอนามัยกันยาก และยิ่งแถววัดที่ตนอยู่นี้ยิ่งหายากและมีราคาแพง ตนเลยคิดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้าแจกพระ เณร โดยนำผ้าจีวรมาเย็บเป็นหน้ากากอนามัย ส่วนผ้าลายอื่นก็นำไปแจกญาติโยม โยมบางท่านก็ทำบุญด้วยปัจจัย บางท่านก็นำผ้ามาให้ ตนก็นำไปซื้อยางยืด ซื้อผ้า ซื้อด้ายมาเป็นอุปกรณ์ ที่ทำทั้งหมดไม่คิดขาย ทำแจกอย่างเดียว ทำเท่าที่ทำได้ และยังรับสอนเย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้าอีกด้วย โดยทางวัดมีอุปกรณ์ให้ครบ จักรเย็บผ้ามีอยู่ประมาณ 7 ตัว ใครสนใจมาทำให้มาที่วัดราษฎร์ศรัทธาธรรมนี้ได้เลย
ด้าน นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภออินทร์บุรี ได้นำชุมชนท้องถิ่นในเขตอำเภออินทร์บุรี มาดูงานการทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าเพื่อเป็นแนวทางในการทำใช้และสอนต่อกันไป
โดย นายสุทธิพงษ์ ได้กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นกลายเป็นวิกฤติระดับโลก ทางรัฐบาลไทยก็ได้ให้มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ กินร้อน ช้อนกลาง และใส่หน้ากากอนามัย พร้อมกับเฝ้าระวัง แต่เนื่องจากหน้ากากอนามัยมีไม่เพียงพอ หาซื้อยากและมีราคาแพง เพื่อแก้ไขปัญหานี้จึงได้หาแหล่งที่จะสอนการทำหน้ากากอนามัยแบบเย็บเอง โดยทราบว่ามี พระพรชัย พระลูกวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม มีความรู้ในการเย็บผ้า นำเศษผ้ามาเย็บเป็นหน้ากากอนามัย ทั้งแบบผู้ใหญ่และเด็ก จึงได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภออินทร์บุรี นำบุคลากรแต่ละท้องที่มาเรียนรู้และนำไปขยายผล จากนั้นก็ให้มีการจัดอบรมให้กับชาวบ้านแต่ละชุมชน เมื่อชาวบ้านมีความรู้แล้วต่อไปก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี