โจ๋วัย 16 เมืองสองแควสารภาพแล้วตีหัว-ปาดคอยายวัย 78 เพื่อชิงทรัพย์หาเงินไปซื้อมือถือ เที่ยว ก่อนลากศพสภาพเปลือยท่อนล่างหมกศพป่าข้าวโพดหลังบ้านพัก พบประวัติสุดแสบเพิ่งพ้นสถานพินิจมาไม่นาน เคยชกต่อยกับเพื่อนสมัยเรียน ป.4 แล้วใช้ก้อนหินทุบหัวจนเพื่อนสลบ และลัก จยย.จนถูกจับได้
วันที่ 7 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สภ.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามคดีเยาวชนโหดวัย 16 ปีฆ่าปาดคอแม่เฒ่า อายุ 78 ปี ลากศพหมกป่าข้าวโพดหลังบ้านพัก เลขที่ 3 ม.9 บ้านหนองตะโพน ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลกนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ ธรธวัช แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ไม่มีเงื่อนงำอะไรและไม่ซับซ้อน จากการนำตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายดำ (นามสมมุติ) เยาวชนในพื้นที่ อายุ 16 ปี ที่ญาติแจ้งมาว่ามีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย โดยเฉพาะบ้านพักของผู้ตายมักจะถูกขโมยของเป็นประจำและเพิ่งพ้นโทษจากสถานพินิจมาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ตนจึงมีคำสั่งให้ไปนำตัวนายดำ และผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ใกล้เคียงมาสอบปากคำแล้วจำนวน 3 ปากและเก็บ DNA จากกระพุ้งแก้มด้วย จากการเค้นสอบอยู่หลายชั่วโมงก็พบว่านายดำมีพิรุธมากที่สุด จึงให้ชุดสอบสวนสอบต่อจนรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่ายายจริงเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันก็ได้ส่งชุดสืบออกตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ทั้งกล้องวงจรปิด พยานแวดล้อม ก็ตรงกันกับคำให้การว่านายดำก่อเหตุฆ่ายายเพียงคนเดียว
พ.ต.อ ธรธวัช แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย กล่าวอีกว่า ล่าสุดเช้าวันนี้นายดำ ได้ยอมสารภาพทั้งหมด โดยเล่าว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ของคืนวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมาได้แอบปีนเข้าไปที่บ้านของนางเหมือน ขุนจำนงค์ อายุ 78 ปี โดยได้ปีนเข้าทางหลังบ้านเพื่อเข้าไปค้นเงินยาย ตอนแรกได้เงินมาประมาณ 4,000 บาท แต่ผู้ตายได้มาเห็นเข้าจึงตะโกนโวยวายตนจึงคว้าไม้ท่อนจากในครัวฟาดไปที่หัวหลายครั้ง ตอนแรกยายเหมือนยังไม่ตาย แต่ตนกลัวว่าหากผู้ตายฟื้นขึ้นมาจะแจ้งตำรวจจับตนอีก จึงบีบคอผู้ตายจนนิ่งไป จากนั้นได้ลากตัวลงมาจากบ้านและหยิบมีดปอกผลไม้ที่อยู่ในครัวลงมาด้วย ระหว่างทางที่ลากลงมาจึงทำให้ผ้าถุงและกางเกงชั้นในหลุด แต่ไม่ได้ทำการข่มขืนแต่อย่างใด จากนั้นได้ใช้มีดปอกผลไม้ความยาวประมาณ 20 ซม.ปาดไปที่คอของผู้ตายแล้วทิ้งศพไว้
หลังก่อเหตุได้นำมีดไปโยนทิ้งในสระน้ำข้างบ้าน แล้วก็ขี้นมาค้นเงินค้นบ้านเป็นรอบที่ 2 ได้เงินอีกประมาณ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,000 บาท จากนั้นขับรถจักรยานยนต์ออกไปตัวตลาด อ.นครไทย ห่างจากตัวบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดทีสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ว่าเดินทางไปซื้อมือถือเพียงลำพัง จากนั้นจึงขับรถไปบ้านเพื่อนใกล้เคียงเพื่อนั่งกินเหล้าจนเหลือเงินติดตัวเพียง 1,000 บาทเท่านั้น ส่วนการสอบสวนเพื่อนผู้ก่อเหตุก็ไม่พบพิรุธอะไร และปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการฆ่ายายเหมือนในครั้งนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากการที่ให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบประวัติ นายดำ เยาวชนโหดคนนี้พบว่าเพิ่งออกจากสถานพินิจคดีลักทรัพย์มาเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา อาศัยอยู่กับลุงและยายแก่ๆ ที่บ้านพัก ห่างจากบ้านคนตายประมาณ 200 เมตร ส่วนตัวแล้วทั้ง 2 ครอบครัวก็รู้จักมักคุ้นกัน แต่นายดำ มีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อยในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นประจำจนชาวบ้านเอือมระอา ไม่มีอาชีพงานการทำ ไม่ได้เรียนหนังสือ ขอบดื่มเหล้ามั่วสุมกับเพื่อนในหมู่บ้านใกล้เคียง ที่ผ่านมานายดำ ก็แอบไปลักของบ้านผู้ตายเป็นประจำ ทั้งเงิน ทั้งไก่ และของอื่นๆ ผู้ตายเองก็ใจดีมักให้อภัยเรื่อยมาจนมาถึงครั้งนี้กลับถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม
นอกจากนี้จากประวัติวัยเด็กยังพบว่า ขณะที่นายดำ เรียนอยู่ชั้น ป.4 เคยชกต่อยกับเพื่อนแต่สู้ไม่ได้จึงใช้ก้อนหินทุบหัวเพื่อนจนสลบเหมือดมาแล้ว มิหนำซ้ำยังเคยลักรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นในตลาด อ.นครไทย ถูกจับได้จนถูกเขารุมกระทืบสะบักสะบอมแต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปิดบังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตายและจะนำตัวส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากผู้ลงมือก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุเพียง 16 ปีดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี