ด่านอรัญฯตรวจคัดกรองเข้ม หลังกัมพูชาแถลงพบชายชาวเขมรวัย38ปีติดโควิด-19ที่จ.เสียมราฐ ถือเป็นชาวกัมพูชารายแรกที่ติดโควิด19
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 8 มีนาคม 2563 นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ ในฐานะประธานช่องทางด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว , นายธนกฤติ สายสิญญ์ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ด่านพรมแดนคลองลึกฯ , พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึกฯ และ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) บูรณาการกำลังร่วมกันเฝ้าตรวจและคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย บริเวณจุดคัดกรอง และจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะได้จัดช่องทางเดินเท้าให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทุกคนต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับความร้อนในร่างกาย หรือเครื่องเทอร์โมสแกน โดยมี จนท.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศฯเฝ้าตรวจหน้าจอมอนิเตอร์ตลอดเวลา เพื่อป้องกันและสกัดกั้นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าประเทศไทย
ส่วนบริเวณจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศฯ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 ได้นำกำลัง จนท.ทหารพรานชุดเสนารักษ์ ร้อย ทพ.1201 นำเครื่องเทอร์โมสแกน (เครื่องตรวจความร้อนในร่างกาย) ขนาดเล็ก มาตรวจวัดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายกับพ่อค้า แม่ค้า และกรรมกรกัมพูชาที่ขับขี่ยานพาหนะและรถเข็นลากเลื่อนทุกชนิดที่จะเข้ามาค้าขายและรับจ้างบรรทุกสินค้าในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างเข้มงวดทุกคนไม่มียกเว้นโดยหากพบมีชาวกัมพูชามีอาการป่วยเป็นไข้อุณหภูมิความร้อนในร่างกายสูงกว่าปกติจะไม่อนุญาตให้เข้าประเทศไทยต้องกลับไปตรวจยืนยันจากแพทย์โรงพยาบาลในกัมพูชายืนยันมาก่อนว่าไม่ติดไวรัสโควิด-9 จึงจะอนุญาตให้เข้าประเทศไทย
ทั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา รมว.กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ได้แถลงข่าวผ่านทางช่องทีวีกัมพูชา และทางเพจเฟสบุ๊คกัมพูชา ว่า เมื่อ 3 มี.ค.63 เวลา 20.45 น.ได้มีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้เดินออกทาง จากกัมพูชา ไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม กลับไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อถึงสนามบินญี่ปุ่น วันที่ 4 มี.ค.63 ทางการญี่ปุ่นได้ทำการตรวจวัดไข้และตรวจสอบอาการของโรคฯ ปรากฏว่า ชาวญี่ปุ่นคนดังกล่าว ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางการญี่ปุ่นได้ทำการสอบถามขั้นต้น ทราบว่าบุคคลดังกล่าว ได้เดินทางผ่านและพักอาศัยอยู่หลายประเทศ เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย และล่าสุดอยู่ประเทศกัมพูชา ทางการญี่ปุ่นจึงประสานส่งข่าวมายังประเทศกัมพูชา (ต้นทาง) โดยเฉพาะพื้นที่ที่เขาอาศัยอยู่และทำธุรกิจที่ จ.เสียมราฐ
ดังนั้น ทางการกัมพูชาจึงสั่งหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ติดตามบุคคลและกลุ่มที่สนิทสนมคลุกคลีใกล้ชิดกับชาวญี่ปุ่นรายนี้ และขั้นต้นได้ตรวจพบชาวกัมพูชา 1 คน ที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นชายอายุ 38 ปี เป็นคน จ.เสียมราฐ และได้ขยายผลตรวจสอบผู้ที่คลุกคลี พบมีผู้คลุกคลีและใกล้ชิด อีก 4 คน ชาย 2 หญิง 2 ในจำนวน 4 คนนี้ มีหญิงชาวญี่ปุ่น 1 คนด้วย ที่เหลือเป็นครอบครัวของคนกัมพูชา อายุตั้งแต่ 19 ถึง 38 ปี ซึ่งขณะนี้ทางการกัมพูชาได้แยกรักษาตัวและกักตัว ไว้เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งจากข่าวชาวกัมพูชาติดเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว ทำให้ประชาชนไทยตามแนวชายแดน และพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือ ต่างตื่นตระหนก เนื่องจากไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกันมีการเดินทางข้ามแดนผ่านไปมาเป็นประจำ เกรงจะทำให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชาต้องวิตกกังวล ด่านพรมแดนคลองลึกฯ จึงได้สนธิกำลังร่วมกันตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและผู้โดยสารที่มีอาการเป็นไข้และเป็นกลุ่มเสี่ยงเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงนี้ และสั่งการให้ จนท.ทำการประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยและชาวกัมพูชาอย่างตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว แต่ขอให้ทุกคนรักษาตนเองด้วยการใส่แมสปิดปากจมูก และล้างมือบ่อยๆ และไม่ไปอยู่ในที่ที่มีประชาชนอยู่กันอย่างแออัด เพื่อป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และใช้ช้อนกลางด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี