ใครที่เคยอ่านนิยายเรื่อง “แฮร์รี่พอตเตอร์” คงจำได้ว่าในสังคมของพวกพ่อมดแม่มด เขาจะมีกระทรวงเวทมนตร์ เพื่อคอยควบคุมบริหารการใช้เวทมนตร์คาถาของเหล่าพ่อมดแม่มดเพื่อให้อยู่ในร่องในรอย ไม่สร้างความเดือดร้อนและสร้างการพัฒนาในเรื่องของเวทมนตร์คาถา เพราะคาถากับพ่อมดอยู่คู่กันอย่างขาดมิได้ในการดำเนินชีวิต
ประเทศไทยของเรา คนไทยส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับพุทธศาสนาแบบแยกกันไม่ออกเหมือนพ่อมดกับเวทมนตร์คาถา แต่เรากลับไม่มีกระทรวงศาสนาพุทธฯ มีแค่กรมการศาสนา ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงวัฒนธรรมเท่านั้นเอง และเป็นกรมศาสนาที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นกรมการศาสนาพุทธฯ แต่หมายรวมไปถึง ศาสนาทุกศาสนาที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเหตุที่ไม่สามารถระบุออกไปให้เป็น ศาสนาพุทธเพียงอย่างเดียวได้ เพราะพุทธศาสนาไม่ใช่เป็นศาสนาประจำชาติของประเทศไทย หากจะเน้นแต่เพียงพุทธศาสนาอย่างเดียว ย่อมขัดกับหลักเสรีภาพทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย หน่วยงานที่ทำหน้าที่ ดูแล รักษา ส่งเสริมงานเกี่ยวกับศาสนาในกระทรวงวัฒนธรรม จึงหมายถึงงานของทุกศาสนา แต่ในฐานะที่ประเทศไทยมีพุทธศาสนิกชนมากที่สุด จึงได้เกิด หน่วยงานเพื่อพุทธศาสนาขึ้น หน่วยหนึ่งคือ สำนักงานพุทธศาสนา ที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทำหน้าที่ดูแลและบริหารงานด้านพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียว
พูดถึงพุทธศาสนา คนส่วนใหญ่จะนึกถึงหัวใจหลักที่พุทธองค์ทรงให้พุทธศาสนิกชนตระหนักอยู่เสมอคือ เรื่องของจิต เพราะจิตเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดของชีวิต
ทุกชีวิตจะมีวิถีทางไปทางใด จิตจะเป็นผู้สั่ง ดังนั้น การควบคุมจิตได้คือการควบคุมชีวิตได้นั่นเอง
สังคมของมนุษย์ในวันนี้ ต้องยอมรับเป็นสังคมที่มีสภาพแวดล้อมผูกพันกับจิตของมนุษย์มากกว่าทุกยุคสมัยที่ผ่านมา เนื่องจากได้เกิด วิวัฒนาการสมัยใหม่ ที่แตกต่างไปจาก วิวัฒนาการที่เคยเกิดมาแล้ว มันเป็น วิวัฒนาการใหม่ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะเกิดมีขึ้นบนโลกใบนี้ โดยทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมา ล้วนกระทบกับจิตของมนุษย์อย่างตรงๆ ที่สุด แบบว่าสร้างความหนักใจกับจิตของมนุษย์ว่าจะต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
เปรียบเหมือนในสังคมของเยาวชนที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ ที่ล้วนแล้วแต่ท้าทายความตื่นตัวให้กับทุกคนทุกๆ ด้าน และช่วงนี้แหละคือช่วยที่เรียกกันว่า หัวเลี้ยวหัวต่อของ “วัยรุ่น”
วันนี้สภาพแวดล้อมในสังคมมนุษย์ เป็นสภาพหัวเลี้ยวหัวต่อของจิตมนุษย์ หากจิตของใครขาดการควบคุม ขาดการปรุงแต่ง ความสับสนวุ่นวายย่อมจะเกิดขึ้น
โอกาสเดียวที่จะทำให้สังคมโลกวันนี้ ยุติความสับสน ยุติความขัดแย้ง หยุดความวุ่นวาย นั่นคือควบคุมจิตให้อยู่ พุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวบนโลกใบนี้ที่เห็นความสำคัญของจิตมานับเป็นเวลากว่าสองพันปีมาแล้ว และมีคำสอนในการควบคุมปรุงจิตให้บริสุทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม...
แล้วทำไมคนไทยเรา ซึ่งมีผู้ศรัทธาในพุทธศาสนามากที่สุดและลึกซึ้งมากที่สุดจึงไม่เป็นผู้นำในเรื่องนี้เพื่อสร้างความสงบสุขให้โลกล่ะ?? หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาน่าคิดถึงนะครับ อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างไม่คิดจะทำอะไรกันบ้างเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี