‘พยัคฆ์ไพร’บุกยึดแบคโฮ-รถบรรทุกดิน รุกป่าสงวนปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ทที่เขาค้อ

‘พยัคฆ์ไพร’บุกยึดแบคโฮ-รถบรรทุกดิน รุกป่าสงวนปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ทที่เขาค้อ

วันอังคาร ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563, 17.24 น.

‘พยัคฆ์ไพร’บุกยึดแบคโฮ-รถบรรทุกดิน รุกป่าสงวนปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ทที่เขาค้อ

10 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เพชรบูรณ์ ว่า พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พชร.2 เขาค้อ ศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เข้าจับกุมการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อ และป่าวังชมพู โดยใช้เครื่องจักรกลหนัก หลังได้รับร้องเรียนว่า มีผู้ลักลอบขุดดิน และสร้างรีสอร์ทในเขตป่า  


จากการตรวจสอบพบรถแบคโฮ 1 คัน พร้อมรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 2 คัน กำลังขุดและปรับพื้นที่ในเขตป่าสงวนฯ ที่เป็นร่องน้ำบนภูเขา ใกล้อ่างเก็บน้ำรัตนัย  จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 3 คน มาทำการสอบสวน ซึ่งให้การว่าเป็นลูกน้องของ “เสี่ยแบ๋ว” และเป็นเจ้าของรถ โดยได้รับคำสั่งให้มาทำงานจุดนี้ 2 วันแล้ว  โดยนำดินแล้วนำออกไปถมที่ดินให้กับข้าราชการครูรายหนึ่ง อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร และการขุดดินและปรับพื้นที่ดังกล่าว ไม่ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานใด

จากการตรวจสอบค่าพิกัดพื้นที่ขุดดิน ปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าสงวนฯและอยู่ นอกแปลงราษฎรอาสา( รอส.)เดิม  เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 3 คน พร้อมตรวจยึดพื้นที่ ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบยังพบว่าในพื้นที่ติดกัน   มีคนงานราว 10 คน กำลังก่อสร้างอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่    บริเวณโดยรอบมีการปรับพื้นที่เป็นขั้นบันได เตรียมสร้างรีสอร์ทและจุดกางเต้นท์    สอบถามคนงาน   ระบุว่า    เป็นของพยาบาลรายหนึ่ง อยู่อำเภอเมือง จ.เพชรบูรณ์ เป็นเจ้าของ

ต่อมานางพิชญา พัฒน์ขาว ข้าราชการพยาบาล   ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ และให้การว่า ได้ซื้อที่จากทายาทราษฏรอาสา (รอส.) จำนวน 3 ไร่ 2 งาน ในปี 2548 และส่งรายชื่อให้คณะกรรมการที่ดินจังหวัดไปแล้ว  แต่เป็นชื่อของหลานสาว  โดยผ่านผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้รับรอง กระทั่งลงมือปรับพื้นที่และก่อสร้างดังกล่าว  

ขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าการซื้อขายที่ดังกล่าว ขัดกับมติ ครม.2541ที่ ให้ผู้ครอบครองรายเดิมต้องทำกินต่อเนื่อง และตกทอดให้ทายาทได้ แต่ไม่สามารถขายได้ อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ  จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและตรวจยืดพื้นที่ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อดำเนินคดีต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top