"อลงกรณ์"ลุยเพชรบุรี ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้เสร็จตามสัญญา เพื่อลดผลกระทบประชาชน ลั่นหากล่าช้าอย่างไม่มีเหตุผลไม่เร่งลงโทษอย่างเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางไปตรวจราชการจังหวัดเพชรบุรี โดยประชุมร่วมกับหน่วยงานชลประทานในจังหวัดเพชรบุรี ที่สำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ซึ่วมี นายอรรถพร พลบุตร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีต ส.ส.เพชรบุรี นายสายันต์ บุญญานุสนธิ์ ผอ.โครงการก่อสร้าง สำนักชลประทานที่ 14 นายสายันต์ จรเจริญ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพรชรบุรี นายอานนท์ พร้อมเพรียง นายอำเภอท่ายาง นายไพศาล แสงหิรัญ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ เปิดเผยว่าการเดินทางมาในครั้งนี้ได้ติดตามความคืบหน้าโคางการก่อสร้างการวางแผนการแก้ปัญหาน้ำท้้งน้ำท่วมและน้ำแล้งที่ผ่านมาโดยกำชับให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญาโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบประชาชน ซึ่งหากล่าช้าอย่างไม่มีเหตุผลไม่เร่งลงโทษอย่างเด็ดขาด ส่วนการวางแผนการบริหารจัดการน้ำเผชิญปัญหาภัยแล้ง เท่าที่ติดตามจากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจังหวัดเพชรบุรีจะมีน้ำกินน้ำใช้ถึงสิ่นเดือนกรกฎาคม 63 อย่างเพียงพอแน่นอน
"ถ้าไม่แล้วเสร็จตามสัญญาหากเป็นเอกชนจะต้องให้แบล็คลิสต์ หากเป็นงานทำเอง หัวหน้าหน่วยงานต้องรับผิดอบ และขอให้ทำลิสต์สัญญา พร้อมวันเสร็จสิ้นตามสัญญาของงานโครงการทั้งหมดที่กำลังก่อสร้างในขณะนี้มาดู" นายอลงกรณ์ กล่าว
ขณะเดียวกันยังได้มอบแนวทางการวางแผนการฝ่าวิกฤติภัยจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเกิดการชัตดาวน์ในทุกมิติ ทั้งทางเศรษฐกิจสังคม อย่างรุนแรงที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่างแข็งขัน และขอให้ทุกส่วนราชการได้ปรับแผนงานเพื่อเผชิญหน้ากับความซบเซาทางเศรษฐกิจ ทั้งโครงการสร้างรายได้ และด้านอื่นๆเพื่อนำเสนอกระทรวงต่อไป
ขณะที่ นายอรรถพร พลบุตร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีต ส.ส.เพชรบุรี กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างต่างๆของคลองระบายน้ำสายใหญ่ 3-D.9 จึงขอให้ทางกระทรวงเกษตรฯเร่งรัดให้เสร็จตามสัญญา และขอให้ลดผลกระทบต่อประชาชน ในระหว่างก่อสร้างทั้งฝุ่น ถนนเปื้อนดินโคลน และมลภาวะอื่นๆ รวมได้แสดงความเป็นห่วงหากการก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญาในช่วงปลายเดือนเมษายน จะไม่สามารถส่งน้ำให้แก่เกษตรกรได้ ย่อมเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงตามมา
จากนั้นคณะฯ ได้ออกสำรวจจุดก่อสร้างโครงการก่อสร้างคลองระบายน้ำสายใหญ่ 3-D.9 และจุดสูบน้ำ 4 จุด อันได้แก่ จุดที่ 1 จุดติดตั้งเครื่องสูบน้าบริเวณบริเวณหน้าเขื่อนเพชร - จุดที่ 2 จุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณบ้านท่าทุ่งแฝก - จุดที่ 3 จุดสูบน้าจากแม่น้ำเพชรบริเวณบ่อตะกั่ว ซึ่งดำเนินงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงปิดคลองเพื่อการก่อสร้าง โดยสำนักเครื่องจักรกล 06 สูบเพื่อส่งน้ำให้เกษตรกรและสระประปาที่ใช้น้ำจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ 3.D และ จุดที่ 4 จุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองยอ- โดยสูบน้ำจากแม่น้ำเพชรฯลงคลองยอและไหลเข้าสู่คลองส่งน้ำชลประทาน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ด้านการเกษตร (พืชไร่ พืชสวน) และอุปโภค บริโภคพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ้านลาดและอำเภอบ้านแหลม ก่อนที่จะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีเพื่อประชุมเรื่องศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech &Innovation Center : A & I C) ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี