'เฉลิมชัย'สั่งเข้มงวดจับกุมลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรไทย

'เฉลิมชัย'สั่งเข้มงวดจับกุมลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรไทย

วันพุธ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563, 09.41 น.

"เฉลิมชัย"สั่งการด่วนที่สุด ประสานฝ่ายความมั่นคง-ศุลกากรนำเข้า เข้มงวดจับกุมลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม-มะพร้าว-กาแฟ เหตุประเทศเพื่อนบ้านส่งออกตลาดจีนไม่ได้ เร่งแก้ไขป้องกันกระทบซ้ำเกษตรกรไทย

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิดได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง กาแฟ ถั่วเหลือง และมะพร้าวมีปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศทั้งการบริโภคโดยตรงและใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง สินค้าบางชนิดราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้มีการลักลอบการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสวมสิทธิ์เป็นสินค้าเกษตรของไทยหรือหลีกเลี่ยงภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปาล์มน้ำมัน จึงประสานขอความร่วมมือหน่วยงานความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศุลกากรให้เข้มงวดตรวจสอบ จับกุมการลักลอบการนำเข้า โดยเฉพาะตามแนวชายแดน นอกจากนี้ เห็นสมควรมให้ทบทวนข้อตกลงทางการค้าภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) และองค์การการค้าโลก (WTO) ใหม่ ตลอดจนมาตรการทางการค้าอื่นๆ เช่น มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (safe guard) และมาตรการปกป้องพิเศษการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (special safeguard) ซึ่งสินค้าเกษตรที่ต้องเฝ้าระวังได้แก่


สำหรับปาล์มน้ำมันนั้น ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของไทย ช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2563 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.19 บาท ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดมาเลเซียเฉลี่ยกิโลกรัมละ 21.05 บาทซึ่งต่ำกว่าไทยกิโลกรัมละ 10 - 15 บาท ล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มทั้งระบบอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งให้กรมการค้าภายในติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ถังเก็บให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยอนุมัติงบประมาณ จำนวน 372.516 ล้านบาท

นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) กำหนดให้นำเข้าได้ที่ด่าน 3 ด่านเท่านั้น ได้แก่ ด่านศุลกากรมาบตาพุด สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ และสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนด่านนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์มได้กำหนดด่านต้นทางเพียงด่านเดียว คือ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งมอบหมายสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เลขานุการ กนป.ติดตามผลการดำเนินงานตามมติ ครม.อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการ สศก.กล่าวถึงการป้องกันการลักลอบนำเข้ามะพร้าว โดยจากการจัดทำข้อมูลปริมาณการผลิตและต้นทุนการผลิตมะพร้าวใน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่า มีการลักลอบนำเข้ามะพร้าวผล ซึ่ง สศก.เร่งประสานกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบว่าการนำเข้าน้ำกะทิส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการและราคามะพร้าวในประเทศ ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ดังนั้น ควรเข้มงวดมาตรการการนำเข้ามะพร้าวและน้ำกะทิ โดยกำหนดช่วงเวลาและปริมาณการนำเข้ามะพร้าวผลที่เหมาะสมภายใต้กรอบการค้า AFTA และ WTO การตรวจสอบและควบคุมการนำเข้ากะทิ การกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายมะพร้าวผลนำเข้าน้ำหนักตั้งแต่ 4 ตันขึ้นไป ซึ่งได้ประสานกรมการค้าภายในเพื่อทบทวนมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายแล้ว รวมทั้งประสานกรมวิชาการเกษตรให้ทำลายมะพร้าวซึ่งลักลอบนำเข้าตาม พ.ร.บ.กักพืช

สินค้าอีกชนิดที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ กาแฟ โดยผ่านมาช่องทางด้านตะวันออกของไทย สาเหตุหนึ่งมาจากเกษตรกรบางรายนำเข้ากาแฟมาสวมสิทธิ์เป็นกาแฟไทย แล้วจำหน่ายแก่ผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งได้ราคาสูงกว่าจำหน่ายแก่สหกรณ์ ดังนั้น ภาครัฐควรคุมเข้มเกี่ยวกับการนำเข้าในทุกรูปแบบ โดยกำหนดช่วงนำเข้ากาแฟได้หลังเดือนพฤษภาคมของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตกาแฟของเกษตรกรในประเทศเริ่มจำหน่ายหมดแล้ว กาแฟเป็นสินค้าควบคุม ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรแจ้งกรมศุลกากรถึงปัญหาการลักลอบนำเข้า รวมถึงแจ้งข้อมูลช่วงเวลาที่ผลผลิตกาแฟออกสู่ตลาด และช่วงเวลาที่ห้ามนำเข้า ให้กรมศุลกากรรับทราบเพื่อจะได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top