โคราชพบผู้ติดเชื้อโควิด - 19 เพิ่มอีกรายเป็นรายที่ 6 ติดมาจากผู้ติดเชื้อรายที่ 5 ผู้ว่าฯนครราชสีมา ใช้ยาแรงคาดโทษวินัยข้าราชการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่ยอมกักตัว กองทัพภาคที่ 2 รับมอบเจลล้างมือแจกจ่ายให้กำลังพลในภาคอีสาน
วันที่ 24 มี.ค.63 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อม นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และ นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมกันแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
โดยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-24 มี.ค.63 จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์บ่งชี้ทางการแพทย์และได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ 324 ราย ไม่พบติดเชื้อ 306 ราย รวมมียืนยันผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจาก 5 ราย เพิ่มขึ้นอีก 1 รายเป็นชาย อายุ 38 ปี พนักงานธนาคาร รวมยืนยันจำนวน 6 ราย และนอนพักสังเกตอาการรอผลตรวจที่ตึกหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รพ.มหาราช นครราชสีมา จำนวน 12 ราย ทั้งนี้ เป็นผลจากการคัดกรองฯ จำนวน 33,448 ราย
โดยผู้ป่วยรายล่าสุดรายที่ 6 เป็นชาย อายุ 38 ปี ติดเชื้อมาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ในรายที่ 5 ซึ่งผู้ป่วยรายที่ 6 ได้มีการเดินทางไปที่อำเภอประทาย , อำเภอปักธงชัย และจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้ประสานไปยังจังหวัดขอนแก่นในการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว สำหรับอาการของผู้ป่วยทั้งหมด มี 5 ราย อาการดี หายใจเองได้ มีเพียง 1 ราย ที่มีภาวะปอดอักเสบใช้เครื่องช่วยหายใจ
สำหรับมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่เดินทางกลับมาจาก กรุงเทพ-ปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้นายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ทุกพื้นที่ เฝ้าติดตามกลุ่มคนดังกล่าว หากพบอยู่ในพื้นที่ รีบแนะนำในการกักตัวอยู่ภายในบ้านเป็นเวลา 14 วัน และมีการติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคน ควรอยู่ที่บ้าน ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเท่านั้น สวมใส่หน้ากากอนามัยให้ครบทุกคน เพื่อหยุดการแพร่เชื้อ ในส่วนข้าราชการผู้ว่าราชกรจังหวัดฯ ได้ย้ำ หากข้าราชการสังกัดหน่วยงานใดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่รับผิดชอบต่อสังคมและไม่เชื่อฟัง และยังทำความเดือดร้อนให้กับสังคม ในเรื่องการกักตัวเอง 14 วันจะมีการพิจารณาลงโทษทางวินัยทันที เพราะไม่เช่นนั้นเอาไม่อยู่
พร้อมกันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการติดตามการระบาดของโรคระดับหมู่บ้าน ซึ่งใช้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นหลัก ให้ติดตามการทะลักกลับมาของประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และทางภาคกลาง โดยสอบประวัติให้ละเอียดและควรกักตัวก่อนเป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคกับคนในครอบครัวด้วย
ขณะเดียวกันหลายภาคส่วนได้ช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาด กองทัพภาคที่ 2 โดย พลโท ยุทธนา เอี่ยมวิจิตร์ ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยคณะนายทหารกองทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับภาคเอกชนจังหวัดนครราชสีมา นำโดย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด พร้อมด้วยนายชาคริส- นางสาววีรียา ตรีกุล-หวังศุภกิจโกศล กรรมการบริหารฯ และชมรมทูบีนัมเบอร์วันเอี่ยมเฮงเสิงสาง จ.นครราชสีมาร่วมมอบแอลกอฮอล์ 95% จำนวน 5,600 ลิตรให้กับทางกองทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับมณฑลทหารบก ทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำไปผลิตเป็นเจลล้างมือแจกจ่ายให้กับกำลังพลที่มีจำนวนมาก รวมทั้งครอบครัวของกำลังพล
ซึ่งภาคเอกชนเล็งเห็นเรื่องการแบ่งเบาภาระให้ทางกองทัพได้ทางหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้มอบให้จังหวัดนครราชสีมา มอบให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา 1,500 ลิตร 300 แกลลอน เพื่อกระจายให้ทั้ง 32 อำเภอ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับโรงพยาบาล ประชาชนทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม แออลกอฮอล์ทั้ง 2 ส่วนนี้หากยังไม่เพียงพอสามารถประสานไปได้ก็พร้อมยินดีและเต็มใจที่จะสนับสนุนเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
นายวิเชียร จันทรโณทัย กล่าวว่า จังหวัดได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมเข้มข้นขึ้นในการป้องกันการแพร่ระบาด โดยเฉพาะการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนทุกคนสวมหน้ากาอนามัย รวมถึงพระภิกษุสามเณร ญาติ โยม เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ซึ่งได้มอบหมายให้นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ไปประสานกับประธานชุมชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา 90 ชุมชน รวมทั้งนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอในการนำหน้ากาอนามัยไปแจกจ่าย ฉะนั้นอยากจะขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยให้ครบ 100 %
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี