โครงการพัฒนา
แห่งสหประชาชาติ
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ป่าพรุเมืองคอน
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลุยป่าพรุควนเคร็งเมืองคอน สร้างสารคดี “พรุบ้านฉัน”เล็งเห็นความสำคัญของป่าพรุที่มีต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ และสัตว์ป่า รวมถึงประโยชน์ของป่าพรุในการกักเก็บคาร์บอนช่วยลดโลกร้อน
นายเรอโนเมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNDP) กล่าวว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำหรือ อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) ลำดับที่ 110 และสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำกำหนดหัวข้อวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก 2563 คือ“พื้นที่ชุ่มน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ (Wetlands and Biodiversity) ทาง UNDP และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้จัดทำและเผยแพร่สารคดี “พรุบ้านฉัน” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสริมศักยภาพการจัดการระบบนิเวศป่าพรุเพิ่มความสามารถการกักเก็บคาร์บอนและอนุรักษ์ทางชีวภาพอย่างยั่งยืน เพื่อให้เห็นว่าธรรมชาติของป่าพรุเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำมีความสำคัญทางระบบนิเวศและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ ที่ป่าพระควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ ยังตระหนักถึงความสำคัญของป่าพรุในการกักเก็บและดูดซับคาร์บอน มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดโลกร้อน รวมถึงก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าพรุ การเฝ้าระวังไฟป่าซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลต่อระบบนิเวศ ตลอดจนการป้องกันบุกรุกพื้นที่เพื่อทำการเกษตร ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้ตระหนักหวงแหนความสมบูรณ์ของธรรมชาติระบบนิเวศป่าพรุให้มีความยั่งยืนต่อไปทั้งนี้
“ป่าพรุเปรียบเหมือนหม้อข้าวของคนภาคใต้หลายคนต้องพึ่งพาป่าพรุทั้งในชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพ การปล่อยให้ป่าพรุถูกทำลายก็เหมือนการทุบหม้อข้าวของพวกเขา นอกจากนี้ ป่าพรุยังช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเนื่องจากป่าพรุทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนเป็นล้านๆตัน อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ป่าพรุถูกทำลายไปมากทั้งจากการพัฒนาที่ดิน การตั้งถิ่นแบบถูกและผิดกฎหมาย และไฟป่า โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติจึงร่วมกับภาคประชาสังคม และรัฐบาลสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์ป่าพรุ”นายเรอโนกล่าว
ด้านอนันดา เอเวอริงแฮม นักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า การลงพื้นที่ถ่ายทำในครั้งนี้รู้สึกมีความสุขมากๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่รู้สึกประทับใจ 2 อย่าง คือ ธรรมชาติ ที่สวยงามของป่าพรุ และ คนในพื้นที่ที่ได้พบปะพูดคุย ที่ให้มุมมองของคนที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติ ที่ทำให้รู้สึกว่าเรานำวิธีคิดของเขามาปรับใช้ในชีวิตของเราได้ และส่วนตัวอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งชาวบ้านในพื้นที่ตำบลไสขนุน ตั้งแต่รุ่นเด็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ก็ให้ความสนใจ ร่วมขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก และไม่พลาดที่จะใช้กล้องส่วนตัวเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วย หวังว่าจะนำภาพเหล่านี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของโฟโต้บุ๊กของตัวเอง ที่ได้มีการวางแผนที่จะทำมานานแล้ว แต่ยังไม่เสร็จเป็นรูปเป็นร่างเสียที
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมภาพความประทับใจทั้งหมดและวิถีชีวิตของคนพรุ ในสารคดีพรุบ้านฉัน ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของภาคส่วนต่างที่ต้องการเผยแพร่ความสำคัญของป่าพรุ และส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนได้ผ่านทางเฟซบุ๊กPeat Swamps Thailandและ เว็บไซต์ www.peatswamps.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี