ไฟป่าดอยสุเทพ-ปุย
เสียหายกว่า2.4พันไร่
ทส.โยก3พันช่วยดับ
เผยพบคนเผาป่วน
“วราวุธ” เผย “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”กำชับดับไฟป่าภาคเหนือ เผยลงพื้นที่เชียงใหม่ พบคนจุดไฟ เผา“ดอยสุเทพ-ปุย”หวังป่วน โยก จนท.ทส.ภาคใต้ร่วม 3 พัน ช่วยดับไฟ ลั่นจนท.ทำงานเต็มที่ยอมรับไฟป่าเหนือวิกฤติ ย้ำทุกฝ่ายหนุนอุปกรณ์ ‘ผู้ว่าฯเชียงใหม่’คาด ดอยสุเทพ -ปุย เสียหายกว่า 2.4พันไร่
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่าจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 27-28 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าประชาชนส่วนหนึ่งในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟ ที่จะต้องขอขอบคุณอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันมีกลุ่มคนที่ไม่หวังดีจำนวนหนึ่ง ที่คิดว่าการเผาเพื่อหาของป่า แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาในอุทยานฯสุเทพ-ปุยนั้น เป็นการป่วนสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงว่า เผาคืออะไร
“ผมขอโทษชาวจังหวัดเชียงใหม่และชาวจังหวัดในภาคเหนือหลายจังหวัด และเห็นใจที่จะต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ โดยมีเฮลิคอปเตอร์ของ กระทรวงทรัพยากรฯ,ฮ.ของทหาร,ฮ.ของปภ.มหาดไทย ซึ่งเป็น ฮ.ดับเพลิง นำน้ำมาดับไฟทำงานตลอด24ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็เดินเท้าทำงานกันอย่างเต็มที่ อุปกรณ์ เครื่องมือก็จัดส่งกันไปอย่างเต็มที่ ประกอบกับใช้อากาศยานไร้คนขับช่วยลาดตระเวน เพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น พร้อมกันนั้น ส่งชุดเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในเขตป่า เขตอุทยานฯเพื่อให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่งเพราะเชื่อว่าคนที่จุดก็อยู่ในป่านั้น เพียงแต่บอกไม่ถูกว่าเป็นคนไหน คงได้แต่ทำความเข้าใจกันไปก่อน ขอยืนยันว่าทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะดับไฟป่าให้ได้”นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ ยอมรับว่า สถานการณ์ไฟป่าทางภาคเหนือวันนี้ ถือว่าเข้าสู่สภาวะวิกฤตมีความหนักหนาสาหัส ประชาชนในเขตเมือง ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจะทำ”คลีนรูม”ก็เจอปัญหาโควิด-19จึงไม่สามารถทำได้ ขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านก่อน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน กำลังพยายามบรรเทาสถานการณ์
ในการดับไฟทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯได้โยกกำลังจากภาคใต้กว่า 2,000-3,000 นาย ขึ้นไปช่วยทั้งที่ในความเป็นจริง เราก็ไม่อยากทำ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19แต่ถ้าไม่โยกกำลังขึ้นไปก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ การแก้ปัญหาไฟป่าบางครั้ง เหมือนกับว่าเราไม่ได้ทำอะไรเพราะคนที่อยู่ในเมืองกับคนที่อยู่ในป่า คนที่ทำหน้าที่อยู่ในป่านับแสนนับล้านไร่ ดังนั้น คน4,000-5,000คน เข้าไปอยู่ในนั้น ก็เหมือนหายหมด เราก็เห็นใจ ก็ต้องขออภัย
“แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ ผมเองก็ได้ลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเองเดินเท้าข้ามเขาข้ามอำเภอเกือบ 4 ชั่วโมง ไปดูแล้ว ก็ได้เห็นว่าการเข้าไป ยากลำบากเพียงใด สิ่งที่ทำได้คือเราสนับสนุนกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ ให้อุปกรณ์อย่างเต็มที่ที่สุด”นายวราวุธ กล่าว
ทั้งนี้ รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับตนให้ช่วยดูแล แก้ปัญหาไฟป่าซึ่งตนได้รายงานทั้ง2คนว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ทางนายกฯและรองนายกฯยังได้ฝากความเป็นห่วงมาถึงพี่น้องชาวจังหวัดภาคเหนืออีกด้วย
ด้านนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศเปิดศูนย์บัญชาการฯส่วนแยก แห่งที่ 4 ซึ่ง สภ.ภูพิงค์ ที่เป็นจุดหลักในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดเรื่องการเผาป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย หลังปัจจุบันเกิดไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อย่างต่อเนื่อง โดยทางจังหวัดเชียงใหม่บูรณการทุกภาคส่วน เน้นป้องกันไฟป่า บริเวณโดยรอบวัดพระธาตุดอยสุเทพ และบริเวณพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นหลัก ถือเป็นสถานที่สำคัญ และลดกำลังเจ้าหน้าที่ในจุดที่มีการดับไฟแล้ว ไปในจุดที่ยังไม่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อลาดตระเวน ฝังตัว และป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า โดยเฉพาะจุดที่ไม่เคยเกิดไฟป่ามาก่อนต้องเร่งป้องกัน จากการประเมินเบื้องต้นมีพื้นที่เสียหายจากไฟป่าแล้วไม่ต่ำกว่า2,400ไร่รวมถึงเกิดมลพิษกระทบกับประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี