3 เมษายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมนัดพิเศษของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยจะเยียวยาให้ครอบครุมประชากรทุกภาคส่วน สำหรับการตัดงบลงทุน 10% ของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ไปเป็นงบกลางเพื่อใช้ในการเยียว 5,000 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น ซึ่งตนก็ได้เสนอว่า ศธ.มีบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแต่ไม่ใช่ข้าราชการ ที่ได้รับผลกระทบมากๆ เช่น บุคลากรในส่วนของโรงเรียนเอกชน การศึกษานอกระบบ และอื่น ๆ ซึ่งบุคคลเหล่าหนี้หากมี 1 แสนคน ก็ต้องไปลงทะเบียนขอรับการเยียวยาจากรัฐบาล
ดังนั้น ศธ.จะจัดกลุ่มเพื่อความสะดวกในการรับการเยียวยา โดย ศธ.จะใช้งบลงทุ 10% นี้ เยียวยาแทน เพื่อให้หารเยียวยาทุกคนได้ทันเวลาไม่ต้องโยกงบกลับไปมา และหากบุคลากรทางการศึกษาของเราเกี่ยวข้องกับประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ทางศธ.ก็จะจัดส่งรายชื่อไปให้ประกันสังคม เพื่อให้ประกันสังคมทราบว่าใครได้รับการเยียวยาแล้วบ้าง
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ได้พูดถึงประสิทธิภาพในการตัดงบลงทุน 10% ถ้าหากทำตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.โอนเงิน ในการโยกเงินไปเป็นงบกลางจะต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 เดือน ในการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมาย ต้องผ่านรัฐสภา เพื่อพิจารณาของบกลับมาเยียวยา และคนกลุ่มนี้ก็ต้องไปรับเงินจากส่วนกลาง
“ดังนั้น ผมจะขอข้อสรุปในที่ประชุม ครม.อีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอใช้งบลงทุนที่ ศธ.กันไว้เป็นงบกลาง 10% เพื่อนำมาเยียวยาบุคลลากรทางการศึกษาของศธ.เอง บนความถูกต้องตามกฏหมาย และต้องได้รับการอนุมัติจากสำนักงบประมาณก่อน ขณะเดียวกันต้องทำให้มีความคร่องตัวในการทำงาน และตัวเลขต้องไม่ซับซ้อน เพราะถ้าเป็นไปตามขั้นตอนอาจจะต้องใช้เวลานานและอาจจะเยียวยาทุกคนได้ไม่ทันเวลา แต่เท่าที่ฟังวันนี้ท่านนายกฯก็บอกว่าหากกระทรวงใดที่เยียวยาได้ก็ให้เสนอเรื่องมา” รมว.ศธ. กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศแล้ว ศธ.ก็จะพยายามลดจำนวนบุคลากรที่จะเดินทางมาทำงานในศธ.ให้ลดน้อยลงกว่านี้อีกถ้าเป็นไปได้ ซึ่งเวลานี้ก็มีการปรับลดการทำงานลงเหลือ 25% แล้ว และมีการปรับการทำงานเป็นกระ ๆและเป็นข่วงเวลา ส่วนที่เหลือก็ให้ทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งทุกคนก็ปรับการทำงานอยู่ที่บ้านให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากจะมีการลดจำนวนลงมากกว่านี้อาจจะเหลือ 15 % หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพื่อให้เกิดความสะดวกในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี