เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมภาพเอกสารคำฟ้องคดีอาญา ระบุว่า ฝ่าฝืนคำสั่งไม่กักตัวให้ขัง 15 วัน จำเลยมีเจตนาจงใจฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคซึ่งปัจจุบันมีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางไม่คำนึงถึงผลกระทบ และไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม จึงขอศาลได้ลงโทษจำเลยในสถานหนักด้วย (คำฟ้องของอัยการ) แนวทางปฎิบัติในการดำเนินคดีที่มีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของอัยการสูงสุด (ที่ อส 0001/ว140 ลว. 31 มีนาคม 2563)
#ภารกิจงานอัยการสูงสุด ข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรับผิดชอบงานด้านระบาดวิทยาและในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบงานด้านระบาดวิทยาเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามกฏหมาย มีคำสั่งให้จำเลยในคดีนี้ที่ร่วมเดินทางมากับบุคคลที่กลับมาจากต่างประเทศกักตนเองเป็นเวลา 14 วันที่บ้านพักของจำเลย แต่จำเลยไม่กักตัวตามคำสั่ง เดินทางออกจากบ้านพักไปพบปะบุคคลอื่นภายในหมู่บ้าน และชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักที่เกิดเหตุ อัยการขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก ศาลจึงมีคำสั่งให้กักขัง 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารคำฟ้องคดีดังกล่าวเป็นการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาต่อศาลแขวงลำปาง หมายเลขดำ 496/2563 ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวงลำปาง เป็นโจทก์ฟ้องชายคนหนึ่ง (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวลำปาง อาชีพรับจ้าง เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด หรือเป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะ ฝ่าฝืนคำสั่งเป็นหนังสือของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ให้แยกกัก กักกันหรือควบคุมไว้สังเกต ณ สถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนด ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 4 , 5 , 34 , 51 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2563 ฉบับลงวันที่ 12 มี.ค.2563 ข้อ 3
คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า ผอ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง (สงวนชื่อ) ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง และเป็นคณะกรรมการดำเนินการตรวจคัดกรอง แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต เพื่อการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ระดับตำบล อ.เถิน จ.ลำปาง ได้มีคำสั่งให้จำเลยซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมเดินทางมากับบุคคลอื่นที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ให้แยกกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ที่บ้านจำเลย นับแต่วันที่ 28 มี.ค. - 11 เม.ย.2563 โดยจำเลยได้ทราบข้อความในหนังสือคำสั่งดังกล่าวแล้ว ครั้นต่อมาวันที่ 30 มี.ค.2563 จำเลยได้เดินออกจากบ้านพักไปพบปะบุคคลอื่นภายในหมู่บ้าน พร้อมทั้งชักชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักของจำเลยด้วย อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยกเว้น
ต่อมาวันที่ 2 เม.ย.จำเลยเข้าพบพนักงานสอบสวนและพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพ
ท้ายคำฟ้อง อัยการโจทก์ระบุว่า จำเลยมีเจตนาจงใจฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคซึ่งปัจจุบันมีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางไม่คำนึงถึงผลกระทบ และไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม จึงขอศาลได้ลงโทษจำเลยในสถานหนักด้วย
ศาลจึงมีคำพิพากษาให้กักขังจำเลยเป็นเวลา 15 วันดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี