7 เมษายน 2563 สภาพของดอยม่อนจอง ที่ตำบลแม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่เจ้าหน้าที่ สถานีควบคุมไฟป่าอมก๋อย และเจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุสัตว์ป่าอมก๋อย ถ่ายไว้หลังขึ้นไปช่วยกันดับไฟป่า ซึ่งเผาไหม้ในพื้นที่ของดอยม่อนจอง เป็นพื้นที่เกือบ 20 ไร่ จากที่เคยเป็นทุ่งหญ้าที่ราบสูงสีเขียวสด วันนี้กลายเป็นสีดำจากเถ้าไฟที่ถูกไฟป่าเผาหลาย จนกลายเป็นม่อนดอยมีดำ
ทั้งนี้ดอยม่อนจอง ที่อยู่ในความดูแลของ เขตรักษาพันสัตุ์ป่าอมก๋อย ถือเป็น จุดที่นักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่า ชื่นชอบมา ด้วยความสูงชัน และต้องใช้วิธีการเดินเท้าขึ้นไปในระดับความสูงถึง 1,929 เมตร ดอยม่อนจองจึง ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยจุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต ดอยม่อนจองยังเป็นแหล่งที่สัตว์ป่าอู่อาศัย เช่นกวางผา หรือ ม้าเทวดาและเลียงผารวมทั้งโขลงช้างป่า ซึ่งทางทีมเจ้าหน้าที่ที่ยึ้นไปยังพบกับกองของขี้ช้างที่ยังใหม่ๆอยู่เชื่อว่าโขลงช้างป่าจะหนีไฟป่าไปยังจุดที่ปลอยภัย
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล เพื่อติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้แทนอำเภอที่เกิดจุด Hotspot สูงที่สุดเมื่อวานนี้ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภออมก๋อย เชียงดาว แม่แจ่ม แม่วาง และอำเภอสะเมิง รายงานสถานการณ์ และความคืบหน้าการดำเนินการในการดับไฟในพื้นที่ และในเช้าวันนี้ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงานจุด Hotspot ที่เกิดขึ้น จำนวน 129 จุด เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 76 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 52 จุด และพื้นที่อื่นๆ อีก 1 จุด ซึ่งได้สั่งการทุกพื้นที่เข้าดำเนินการตรวจสอบและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้นำข้อมูลมาปรับแผนแบบรายวัน อย่าให้เกิดจุดไหม้ซ้ำซากต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ ให้เจ้าหน้าที่สื่อสารเพื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์เข้าใจถึงกระบวนการทำงานของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมให้เพิ่มชุดลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต่างๆ โดยอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากผู้ที่เชี่ยวชาญในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพเก็บหาของป่า รวมทั้งใช้หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และการลงพื้นที่ในชุมชน เพื่อลดการเกิดจุด Hotspot ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งให้ชุมชนมีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายให้การชี้เบาะแสผู้ลักลอบเผาป่า เพื่อจับกุมมาดำเนินคดี
ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือทั้ง 25 อำเภอ สำรวจพื้นที่ทำกินของราษฎรในทุกพื้นที่ โดยให้สำรวจลึกไปถึงในระดับตำบล หมู่บ้าน รวมไปถึงจำนวนเชื้อเพลิงที่มีอยู่ เพื่อการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เพื่อไม่ให้ชาวบ้านในพื้นบริหารจัดการเชื้อเพลิงพร้อมกันในทุกพื้นที่ ซึ่งจะก่อให้เกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จะได้มีการประชุมกับทุกอำเภออีกครั้ง เพื่อวางแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิงหลังช่วงสิ้นสุดการประกาศห้ามเผาของจังหวัดเชียงใหม่
ในส่วนของการดับไฟในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้นำรถฉีดน้ำเข้าไปฉีดน้ำในจุดที่ไฟยังคุกรุ่นอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกไหม้ซ้ำอีก ส่วนการใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าสนับสนุนการดับไฟ เมื่อวานนี้ได้นำเฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าปฏิบัติงานที่อำเภอแม่ริม ซึ่งผลการปฏิบัติงานผ่านไปด้วยดี และวันนี้จะได้ดำเนินการขึ้นบินเพื่อดับไฟป่าตามจุดต่างๆ ที่เกิด Hotspot โดยพิจารณาตามความเหมาะสม เช่น ระยะทางปฏิบัติการไม่ไกลเกินไป มีแหล่งน้ำใกล้เคียง และคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี