รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึกฯ เผยผลพ่วงไทยปิดพรมแดนทำยาไอซ์ในฝั่งเขมรขาดแคลน ต้องสั่งจากไทยลักลอบนำเข้า โดนตำรวจและทหารพรานสกัดจับได้คาตลาดโรงเกลือน้ำหนัก 5 กิโลกรัม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 เม.ย.63 พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึกฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึกฯ ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตะเวณรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้า-ออกประเทศไทย บริเวณตะเข็บชายแดนท้ายตลาดโรงเกลือฯ
ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯ ร่วมกันลาดตระเวนมาถึงบริเวณตลาดค้าผัก ผลไม้ ด้านหลังตลาดโรงเกลือฯ ได้มีพลเมืองดีในตลาดโรงเกลือฯมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามีชายชาวเขมรได้นำยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติคสีดำจำนวนมากมาซุกซ่อนไว้ในกองขยะข้างตลาดค้าผัก ผลไม้ ในตลาดโรงเกลือฯ เจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจสอบพบกระเป๋าเป้สีดำบรรจุอยู่ในถุงพลาสติคสีดำ ซุกซ่อนอยู่ในกองขยะซึ่งเป็นเศษผักและผลไม้
เมื่อเจ้าหน้าที่นำมาเปิดออกดูพบภายในกระเป๋าเป้สีดำ มีห่อใบชาจากประเทศเวียดนามซุกซ่อนอยู่จำนวน 5 ห่อเมื่อเปิดออกดูพบภายในห่อใบชาฯ มียาไอซ์ชนิดเกร็ดสีขาว อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ซุกซ่อนอยู่ห่อละ 2 ก้อน โดยใช้ปากกาสีน้ำเงินเขียนหน้าก้อนยาไอซ์ เป็นภาษาอังกฤษ AAA น้ำหนักก้อนละ 500 กรัม รวม 1 ห่อมียาไอซ์ 2 ก้อนน้ำหนักรวมห่อละ 1,000 กรัมหรือ 1 กิโลกรัมจึงร่วมกันตรวจยึดยาไอซ์ ทั้งหมดจำนวน 10 ก้อน แบ่งบรรจุในห่อใบชาฯห่อละ 2 ก้อน รวมมียาไอซ์น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 5 กิโลกรัม จากนั้นได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่จับกุมชายชาวเขมรชื่อนายยน เยือน อายุ 40 ปีลูกจ้างในตลาดโรงเกลือฯโดยยืนยันว่าเป็นผู้นำถุงยาไอซ์มาซุกไว้ที่กองขยะฯ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายยน เยือน มาสอบสวน ที่ห้องสืบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายยน เยือน อ้างว่ายาไอซ์ดังกล่าวเป็นของชายชาวไทยไม่ทราบชื่อขับรถเก๋งสีน้ำเงิน นำยาไอซ์มาวางไว้ที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าหน้าที่ทำการไปรษณีย์ตลาดโรงเกลือฯ โดยเพื่อนชาวเขมรที่ตลาดปอยเปตฯ โทรศัพท์มาบอกให้ตนเองไปรับอ้างว่าเป็นอาหารแห้งจะนำไปฝากเมียในฝั่งปอยเปตและได้วานให้ตนนำไปฝากรถบรรทุกที่จะเข้าไปบรรทุกปลาสดในฝั่งกัมพูชาให้ด้วย โดยตนเองไม่รู้ว่าเป็นยาไอซ์
ซึ่งคำกล่าวอ้างของนายยน เยือน เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกปลาสดชาวไทยที่จะนำรถบรรทุก 6 ล้อ เข้าไปบรรทุกปลาสดในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยว่าขณะจะนำรถบรรทุก 6 ล้อ ข้ามไปบรรทุกปลาสดในฝั่งกัมพูชา ได้มีนายยน เยือน ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นลูกจ้างในตลาดโรงเกลือ หิ้วถุงสีดำมาฝากเข้าไปกัมพูชา
โดยบอกว่าเป็นกุ้งแห้งจะซื้อไปฝากเมียในฝั่งเขมร แต่เนื่องจากช่วงนี้มีโรคโควิด-19 ระบาด และจังหวัดสระแก้วมีมาตรการเข้มงวด ตำรวจคลองลึกฯ ได้มากำชับให้รถบรรทุกที่เข้าไปบรรทุกสินค้าในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาทุกคัน หากมีใครมาฝากสินค้าต้องเปิดออกดูให้แน่ชัด หากเป็นสินค้าผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดีไปด้วย ตนเองจึงเปิดออกดู และพบว่าภายในมียาไอซ์ตนจึงรีบแจ้งเจ้าของรถให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่มาจับกุมได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายยน เยือน พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวม 5 กิโลกรัมนำส่ง สว.สอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี และเร่งสอบสวนเพื่อขยายผลถึงที่มาที่ไปของยาไอซ์ และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึกฯ เผยว่า จากการสอบถามชาวกัมพูชาทราบว่ายาไอซ์ที่มีตราประทับ AAA นั้นเป็นยาไอซ์อย่างดีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศเมียนมา และคาดว่าหลังจากประเทศไทยสั่งปิดพรมแดนไทย-กัมพูชาทั่วประเทศ ทำให้ยาไอซ์ในฝั่งกัมพูชาน่าจะเริ่มขาดตลาด ทำให้แก๊งค้ายาชาวกัมพูชาต้องสั่งนำเข้ามาจากประเทศไทย แต่ช่องทางการส่งไม่มีเนื่องจากไทยปิดพรมแดน จึงได้ลักลอบมาส่งที่ตลาดโรงเกลือฯ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการแก๊งค้ายารายนี้เพราะถือว่าเป็นแก๊งค้ายารายใหญ่เพราะยาไอซ์ที่ตรวจยึดได้มีจำนวนมากน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี