ตกสำรวจ!‘แพทย์แผนไทย’วอนรัฐจัดสรรตำแหน่ง ลั่นรบ‘โควิด’เคียงคู่บุคลากรแพทย์มาตลอด
9 เมษายน 2563 จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 อนุมัติบรรจุข้าราชการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อสร้างขวัญและกำลังบุคลากรสาธารณสุขสู้โควิด-19 ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จำนวน 24 สายงาน และนักศึกษาที่จบใหม่อีก 5 สายงาน รวม 45,684 ตำแหน่ง ซึ่งจากมติฯดังกล่าวเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่ง เนื่องจากมีบุคลากรที่ตกสำรวจไม่ได้เสนอเข้าร่วมการอนุมัติในครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือแพทย์แผนไทย ซึ่งมีจำนวนกว่า 3,000 คน จึงทำให้เกิดการเรียกร้องของแพทย์แผนไทยทั้งประเทศต่อการจัดสรรตำแหน่งในครั้งนี้
ด้าน ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ล่าสุดได้ทราบว่าผู้บริหารในกระทรวงหลายฝ่าย ได้ร่วมกันหารือและหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดสรรการบรรจุตำแหน่งข้าราชการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมถึงแพทย์แผนไทยที่เดิมได้หล่นไปจากการนำเสนอ ครม.
“โดยส่วนตัวที่ได้มีการทำงานด้านสมุนไพร เห็นว่า ในสถานการณ์วิกฤต โควิด-19 บุคลากรทุกสางานล้วนมีความสำคัญด้วยกันทั้งหมด หากจะมีการพิจารณาถึงความเสียสละ ความเสี่ยง หรือในเชิงการปฏิบัติหน้าที่แล้ว บุคลากรที่ต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ การวินิจฉัย คัดกรองโรค แพทย์แผนไทยเองก็มีบทบาท ที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องกระทรวงสาธารณสุข เช่นกัน ซึ่งการทำงานในบทบาทวิชาชีพแพทย์แผนไทย ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ ไม่แตกต่างอะไรกับการออกศึกสมัยโบราณที่ต้องเผชิญกับโรคระบาดของโรคห่า ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก สมัยนั้นเราไม่มีแม้อุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย มีเพียงองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและตัวยาสมุนไพรที่หาได้ในบ้าน” ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว
ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า เช่นเดียวกับในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เราไม่มียาเฉพาะในการรักษา โควิด-19 หลายโรงพยาบาลเล็งเห็นแล้วว่า การพึ่งตนเอง โดยการใช้สมุนไพรพื้นบ้านยังคงเป็นคำตอบที่พึ่งได้ หากจะถามว่าแพทย์แผนไทย ทำอะไรได้บ้าง มีบทบาทอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ หากมองในมิติของการทำงานสามารถแบ่งได้เป็น
1. แพทย์แผนไทยเป็นส่วนที่เติมเต็มส่วนที่ขาดในระบบสุขภาพได้ สามารถเป็นส่วนเสริมกำลังในการให้บริการผู้ป่วย คัดกรองเชื้อด่านหน้า เพื่อให้กระจายกำลังบุคลากรไปยังจุดอื่นที่สำคัญต่อได้
2. เป็นส่วนสนับสนุนองค์ความรู้ที่เรามีความเชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วย และประชาชน รวมถึง บุคลากรในโรงพยาบาลได้ เช่น ตัวอย่างที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้มีการพัฒนาสูตรยาสมุนไพร ที่มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์และเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ที่ต้องสู้กับเชื้อไวรัส ทำเป็นอาหารและเครื่องดื่ม แจกจ่ายให้ประชาชน ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ และเจ้าหน้าที่ได้ใช้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ให้ความรู้ประชาชนผ่านช่องทางต่างๆให้สามารถพึ่งตนเองได้ด้วยสมุนไพรใกล้ตัวในยามวิกฤติฉุกเฉิน หรือที่ โรงพยาบาลสังคม จ.หนองคาย ได้เริ่มมีการจ่ายตำรับยามหาพิกัดตรีผลา ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย เพื่อเป็นการช่วยป้องกันและลดโอกาสการติดเชื้อ และเตรียมยาตำรับสมุนไพรบำรุงปอดไว้รองรับผู้ป่วยอีกด้วย ทั้งนี้ยังคงมีอีกหลายสถานพยาบาลที่องค์ความรู้ทางวิชาชีพแพทย์แผนไทยได้เข้าไปร่วมมีบทบาทและสนับสนุนการทำงานสู้โควิด-19
ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า ในอนาคตหากการระบาดเพิ่มจำนวนมากขึ้น วัตถุดิบหรือตัวยาแผนปัจจุบันที่จะสามารถรักษาไม่เพียงพอ จะทำอย่างไร และหากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นต้นทางในการส่งวัตถุดิบการผลิตยาให้ประเทศไทยไม่ส่งมาให้ เนื่องจากต้องใช้ดูประชากรในประเทศของเขาที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก ในวันนั้นประเทศไทยจะทำอย่างไร หากเราขาดความมั่นคงทางยา วันนี้เราโชคดีที่มีภูมิปัญญาไทย มีองค์ความรู้สั่งสมมานาน มีการใช้ยาสมุนไพร เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าในอนาคตเราไม่มียาจริงๆ เราก็ยังพึ่งตนเองได้ด้วยการใช้องค์ความรู้และตัวยาที่เรามี
“การส่งเสริมให้มีแพทย์แผนไทยในระบบ หรือการบรรจุข้าราชการตำแหน่งแพทย์แผนไทยในวาระสำคัญเช่นนี้ อนาคตเราก็จะสามารถสร้างฐานที่เข้มแข็งเช่นเดียวกับจีนได้ ในยามวิกฤติก็สามารถบูรณาการความรู้ของศาสตร์ดั้งเดิมและตะวันตก เพื่อให้เกิดประโยชน์และความมั่นคงทางสุขภาพ ความมั่นคงทางยาของประเทศได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการพิจารณาจัดสรรตำแหน่งข้าราชการให้กับแพทย์แผนไทยในครั้งนี้ จะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจและความมั่นคงกับบุคลากรที่กำลังร่วมเสียสละเพื่อสู้สงครามเชื้อไวรัสตอนนี้” ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี