12 เมษายน 2563 ที่ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเลย ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย พร้อมด้วย นายแพทย์ยอดลักษณ์ สัยลังกา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย นายแพทย์ชุมนุม วิทยานันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลย และ พ.ต.อ.ณัฐกฤต คำวิเศษชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเลย หลังพบผู้ป่วยรายที่ 4 ซึ่งเป็นสามีของผู้ป่วยรายที่ 3 ที่ตรวจพบเชื้อไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดเลย ล่าสุดหลังจากได้ตรวจพบผู้ป่วยรายที่ 3 ของจังหวัดเมื่อวันก่อนทางโรงพยาบาลเลยจึงได้ทำการเรียกตัวในครอบครัว ทั้งสามี บุตรชายบิดา และมารดา มาทำการตรวจหาเชื้อปรากฏว่าพบสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ในตัวสามีของผู้ป่วยรายนี้ ส่วนคนอื่นๆไม่พบเชื้อทำให้ตอนนี้จังหวัดเลย พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเป็นรายที่ 4 จากการสืบประวัติพบว่า ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเลย อาศัยอยู่ที่บ้านก้างปลา ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย ส่วนสามี ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 4 รับข้าราชการอยู่ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย เบื้องต้นทางทีมสอบสวนโรคฯได้เรียกตัวผู้ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในช่วงที่ผ่านมา รวม 15 ราย มาทำการตรวจหาเชื้อฯ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในช่วงดึกของวันนี้ โดยทีมแพทย์ชี้ว่า 2 ใน 15 ราย มีความเสี่ยสูงที่ติดเชื้ออีกด้วย
ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลย กล่าวว่า จากการเปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 3 ในช่วงแถลงข่าวเมื่อวานที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการคัดกรองของโรงพยาบาลเนื่องจากผู้ป่วยรายที่ 3 ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วยอยู่หลายครั้ง จึงขอเรียนว่า สาเหตุของการตรวจพบเชื้อช้าเนื่องมาจากปัจจุบันนั้นการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ต้องส่งไปตรวจที่เดียวเท่านั้นคือศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี ซึ่งทางศูนย์ฯได้กำหนดหลักเกณฑ์การส่งผลเลือดตรวจไว้ 3 หลักเกณฑ์ คือ 1.ผู้ที่มีประวัติไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรค 2.มีประวัติการสัมผัสผู้ติดเชื้อ และ 3.มีอาการปอดอักเสบรุนแรงหาสาเหตุไม่ได้
หากไม่เข้าเกณฑ์ที่กล่าวมาทางศูนย์ฯจะไม่พิจารณาดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่แพทย์ตัดสินใจทำการส่งผลตรวจเชื้อนั้น เนื่องจากผู้ป่วยเริ่มมีอาการหอบเหนื่อยผิดปกติซึ่งเข้าเกณฑ์ที่สามารถส่งผลตรวจได้ แต่ก่อนหน้านี้มีเพียงอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น จึงทำได้เพียงรับยาแล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้าน (ลิงค์ไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 3 สามารถดูได้จากคอมเมนต์ใต้โพสต์)
ขณะที่ผู้ป่วยรายที่ 4 นั้น มีประวัติเดินทางไปยังกรุงเทพมหานครในช่วงที่ผ่านมาอีกทั้งจากการสอบสวนโรคพบว่า เจ้าตัวเคยมีอาการป่วยในลักษณะคล้ายไข้หวัดธรรมดามาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ได้หาซื้อยามารับประทานเองจนกระทั่งหายจากอาการป่วยก่อนถูกตรวจพบเชื้อเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เรียกบุคคลในครอบครัวมาทำการตรวจสารคัดกรองสำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 2 ราย (รายที่ 3 และ4) ปัจจุบันได้พักรักษาตัวที่อยู่ที่ห้องแยกโรคของโรงพยาบาลเลย ร่างกายยังแข็งแรงไม่มีอาการไข้ทั้งคู่ ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 นั้น ล่าสุดแพทย์ได้ส่งผลตรวจสารคัดหลั่งไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา พบว่ายังมีเชื้ออยู่จึงต้องพักรักษาตัวที่ห้องแยกโรคต่อไป
ส่วนกรณีเคสผู้ป่วยอีก 1 ราย ซึ่งเป็นชาวอำเภอปากชมที่ถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นั้น ปัจจุบันทางโรงพยาบาลปากชมได้ทำการรับตัวผู้ป่วยเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลปากชมแล้วโดยล่าสุดผลตรวจพบว่ายังมีเชื้ออยู่จึงต้องทำการรักษาตัวต่อไป ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย จึงมติให้ออกประกาศ ห้ามขายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 รวมถึงห้ามเล่นสงกรานต์หรือมีการรวมพล ชุมนุม หรือ เลี้ยงสังสรรค์ เนื่องจากทางแพทย์ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า หากปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าว จะมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่เชื้อได้ นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยยังได้มีคำสั่งปิด สถานที่เสี่ยงอีกทันที 2 แห่ง ได้แก่ 1.บริเวณตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย และ 2.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย รวมไปถึงที่ทำการชั้น 4 ของโรงพยาบาลเลย อีกด้วยโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี