13 เมษายน 2563 วันที่ 13 เมษายนทุกปีคือวันมหาสงกรานต์ โดยธรรมเนียมถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย และยึดถือปฏิบัติมานับร้อยปี ในวันดังกล่าวจะมีประชาชนเตรียมหุงข้าวต้มแกง เพื่อนำไปทำบุญที่วัด ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่สีสันสดใส โดยเฉพาะหนุ่มสาวเพราะจะได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันได้อย่างสะดวก แต่ก็ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่
เมื่อทำบุญตักบาตรหรือเลี้ยงพระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีการบังสุกุลอัฐิของบรรพบุรุษ ผู้ล่วงลับเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ก่อพระเจดีย์ทราย ซึ่งเป็นการขนทรายเข้าวัดสำหรับไว้ใช้ในงานก่อสร้างโบสถ์วิหาร มีการปล่อยนกปล่อยปลาซึ่งเท่ากับเป็นการแพร่ขยายพันธ์สัตว์ให้คงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลาน และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือการสรงน้ำพระ การรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปจนถึงการเล่นสาดน้ำกันเองในหมู่หนุ่มสาว
สำหรับวันสงกรานต์ ประจำปี 2563 แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 พรากชีวิตประชาชนทั่วโลกหลายแสนคน จึงทำให้รัฐบาลไทยต้องงัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาสู้กับโรคไวรัสมฤตยู
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งมีวัดตั้งเรียงรายอยู่จำนวน 4 แห่ง คือวัดพระอินทร์แปลง วัดมหาธาตุ วัดกลาง และวัดโพธิ์ศรี ถึงวันมหามงคล เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเข้าพรรษา หรือ วันออกพรรษา ฯลฯ ริมฝั่งแม่น้ำโขงจะเนืองแน่นด้วยสาธุชนพุทธบริษัท ยืนตักบาตรพระสงฆ์จำนวนมาก
สำหรับปีนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่คึกคักเช่นปีที่ผ่านมา การทำบุญตักบาตรถูกงด เพราะหวั่นว่าการมารวมตัวของคนหมู่มาก อาจจะมีบางคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นำเชื้อมาแพร่ระบาด จึงถูกให้งดกิจกรรมทางศาสนา และพิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
บางวัดถึงขั้นประกาศงดออกบิณฑบาต เพราะเกรงจะติดเชื้อโควิด ประกอบกับญาติโยมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และยังมีแนวโน้มการติดเชื้อของบุคคลในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ทางวัดฯเห็นสุขภาพของญาติโยมเป็นปัจจัยสำคัญ จึงงดการออกบิณฑบาตดังกล่าว แต่ก็มีญาติโยมละแวกใกล้เคียงมาทำกับข้าวถวายพระคุณเจ้าแทน แต่ก็ยังมีบางวัดคงยึดหลักเป็นกิจวัตรที่พระพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ ให้การออกบิณฑบาตเป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
เช่น วัดกลาง เจ้าอาวาสยังคงให้พระสงฆ์ สามเณร ออกบิณฑบาตทุกวัน แต่หลังจากโปรดสัตว์แล้ว ทุกรูปจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อเป็นการคัดกรองเบื้องต้น และกำหนดการเข้าออกวัดอย่างเข้มงวด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 กระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกประกาศเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2563 มีคำสั่งยกเลิกงานสงกรานต์ทุกระดับ งดเว้นการรดน้ำของพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี และงดการร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มากฯ
โดย กระทรวงวัฒนธรรม ให้สืบสานเทศกาลประเพณีสงกรานต์ ด้วยการสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน ส่วนการแสดงความกตัญญูและขอพรต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ให้ใช้วิธีกราบไหว้และขอพร ส่วนการที่จะขอพรผู้ใหญ่ที่อยู่ไกลกัน ให้แสดงออกผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เกิดเหตุระทึกที่ริมถนนชุมชนหนองแสงท่า เขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อพบหญิงเร่ร่อนคนหนึ่ง นอนซมอยู่ข้างถนนใกล้กับโรงเรียนเทศบาล 1 หลังสุสานวัดนักบุญอันนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้ตรวจวัดไข้พบว่าสูงกว่า 37 องศาเซลเซียล เกรงจะเป็นผู้ป่วยเสี่ยงสัมผัสสูง เพราะหยิงเร่ร่อนไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย จึงแจ้งไปยังศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 รพ.นครพนม มารับตัวไปตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยระหว่างที่รอรถฉุกเฉินไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หญิงคนดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงมีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
สงกรานต์สมุทรสาครสุดเงียบเหงาไร้เงาคนมาทำบุญเข้าวัด
บรรยากาศตามวัดต่างๆของจังหวัดสมุทรสาคร ในวันสงกรานต์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยในปีนี้ผู้สื่อข่าว ได้ออกตรวจสอบตามวัดต่างๆในจังหวัด บรรยากาศเป็นไปเหมือนๆกัน โดยวัดนางสาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ถือเป็นวัดดังวัดหนึ่ง มีโบสถ์ที่สวยงามขึ้นชื่อไม่เหมือนที่ใด "โบสถ์มหาอุต"ที่มีผู้คนมาเที่ยวชมทำบุญไม่ขาด
แต่มาในปีนี้ไม่เหมือนทุกปี ไร้เงาของผู้คนที่จะมาทำบุญจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เพราะกลัวติดโรคโควิด19และปีนี้สงกราต์ก็ไม่ได้เป็นวันหยุดเหมือนทุกๆปีจึงทำให้เงียบเข้าไปอีก
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ยาย สมคิด อายุ 65 ปี อาศัยอยู่บ้านใกล้กับวัดว่า สงกรานต์ปีนี้ไม่ได้ไปทำบุญที่วัดไม่ได้ไปไหนเลยลูกๆหลานก็ไม่ได้มาเยี่ยมรู้สึกเหงาเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจที่ทุกคนต้องทำตามนโยบายและมาตรการจากรัฐบาลที่ออกมา รายได้ก็ไม่มี ค้าขายทำอะไรก็ไม่ได้จึงต้องอยู่แต่บ้าน ก็หวังว่าไอ้โรคร้ายโควิดนี้จะหมดสิ้นไปในเร็ววัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี