สภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย หมู่ที่ 5 ตำบลกุดประทาย อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ขับเคลื่อนชุมชนด้วยการสร้างความตระหนักให้เห็นพิษภัยของการสูบบุหรี่ มีการจัดกิจกรรมตลอดปีรวมถึงการเคาะประตูบอกกล่าวให้เห็นพิษภัยของบุหรี่และเชิญชวนให้เลิกบุหรี่ จนมีบุคคลต้นแบบเลิกบุหรี่ได้ และก่อเกิดสภาเด็กเยาวชนกุดประทาย-กุดเจริญ ร่วมหนุนเสริมเป็นพลังแห่งอนาคตเพื่อไม่ให้มีนักสูบหน้าใหม่ขึ้นมา
ซึ่งเรื่องนี้ พ่ออินทร์แปลง บำเพ็ญ นักสูบอันดับต้นๆ ของชุมชนกล่าวว่า “ตัวพ่อเองสูบบุหรี่มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ช่วงที่สูบหนักมากที่สุดคือวันละ 2 ซอง ช่วงระยะหลังๆ รู้สึกตัวเองได้ว่าเหนื่อยง่ายและไอบ่อย ประกอบกับที่ทางชุมชนได้มีกิจกรรมเรื่องการลด ละ เลิกบุหรี่เข้ามาพอดี และอีกอย่างเพราะโดนคนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัวบ่นประจำ เลยได้ตัดสินใจเลิกเลย ตอนนี้อายุ 78 ปี แล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรง คนรอบข้างก็ไม่บ่นแล้ว รู้สึกสบายหูขึ้นเยอะเลย ซึ่งในยามว่างก็พากันในนามผู้สูงอายุมาจักสานไม้ไผ่เป็นเครื่องใช้ไม้สอยจำพวกสุ่มขังไก่ ตะกร้า หวดนึ่งข้าวเหนียว และอื่นๆ อีกมากมาย”
อีกหนึ่งในผลลัพธ์ที่สภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย ได้ขับเคลื่อนขึ้นมาพร้อมๆ กับการขับเคลื่อนเรื่องสุขภาพนั่นคือ การก่อเกิดสภาผู้นำเด็กและเยาวชนบ้านกุดประทาย-กุดเจริญ หรือที่เรียกว่า “สภาเด็กเยาวชนกุดประทาย-กุดเจริญ” ที่มาจากการเห็นความสำคัญของลูกหลานในชุมชนเอง โดยไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยองค์กรท้องถิ่นแต่อย่างใด โดยมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันมาตลอดเป็นประจำอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
น.ส.วาทินี วรรณประภา รองประธานสภาเด็กเยาวชนกุดประทาย-กุดเจริญ เล่าว่า “การมีสภาเด็กเยาวชนทำให้เราได้มาพบปะพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน ได้รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้างและได้ทำเพื่อบ้านเกิดของเราด้วย ซึ่งปกติที่ชุมชนมีงาน หนูและเพื่อนๆ ก็มามีบทบาทส่วนร่วมอยู่แล้ว เช่น การจัดสถานที่ การเสิร์ฟอาหาร การรำในงานต่างๆ แต่พอมีสภาเด็กเยาวชนขึ้นทำให้เรามีพื้นที่ให้เราได้ทำงานร่วมกับชุมชน เช่น วันนี้ที่ชุมชนเดินรณรงค์เรื่องพิษภัยของบุหรี่ หนูและเพื่อนๆ ก็มีส่วนร่วมด้วยและได้เรียนรู้หลายๆ เรื่องร่วมกันไปด้วยค่ะ”
และผลลัพธ์ที่ตามมาในการขับเคลื่อนประเด็นหลักคือ การลด ละ เลิกบุหรี่ในปีที่ผ่านมานั้น มีบุคคลที่เลิกบุหรี่ได้ 3 คน และลดบุหรี่ได้ 6 คน จากจำนวนคนที่สูบจริง 39 คน และจากการประเมินชุมชนโดยวัดจากผู้ร่วมเวทีอบรมให้ความรู้เรื่องโทษบุหรี่พบว่า ชาวบ้านตระหนักถึงพิษภัยบุหรี่ร้อยละ 60 เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์และมีการอบรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สภาผู้นำชุมชนยังแบ่งบทบาทหน้าที่ให้สมาชิกสภาผู้นำชุมชน 1 คนดูแลเพื่อนบ้าน 3 คน ที่สูบบุหรี่หรือมีความเสี่ยงในการสูบบุหรี่ จึงทำให้ชุมชนเกิดความตระหนักมากขึ้น โดยในปัจจุบันนี้เกิดกติกาอย่างไม่เป็นทางการ 3 ข้อ คือ 1) ห้ามมีการสูบบุหรี่ในที่ชุมนุมชนที่มีคนจำนวนมาก ถ้าอยากสูบต้องเดินหนีห่างจากเพื่อนอย่างน้อย 5 เมตร 2) ห้ามร้านค้าแบ่งบุหรี่เพื่อจำหน่าย และ 3) ห้ามมีการสูบบุหรี่ในกรณีที่ชุมชนมีการทำกิจกรรม
นี่คงเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่เข้มแข็งที่ขับเคลื่อนและทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อนำไปสู่ความเป็นชุมชนน่าอยู่ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี