คุกอ่วม 10 ปี อดีตอัยการยโสธรเรียกรับเงิน 3 หมื่นช่วยเหลือ 4 ผู้ต้องหาไม่ฟ้องคดี ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

วันที่ 17 เมษายน 2563 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม  ถ.นครไชยศรี ศาลนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ ที่อท.89/2560 คดีหมายเลขแดงที่อท. 452/2560 ที่อัยการสูงสุดโดยพนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานีโจทก์ เป็นโจทก์ฟ้อง นายฐิติวัชร์ ศิริพร อัยการจังหวัดประจำกรมสำนักงานอัยการจังหวัดยโสธรช่วยราชการสำนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจำเลยในความผิดฐานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ 

กรณีจำเลยเรียกรับเงินจำนวน 30,000บาทสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการใช้อำนาจและหน้าที่ในตำแหน่งพนักงานอัยการโดยทุจริตช่วยด้วยการเหลือผู้ต้องหา4คน ไม่ให้ถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีอาญาต่อศาล อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91,157,201 จำเลยให้การปฏิเสธ

โดยคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.60 เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุก กระทงละ 5 ปี  2 กระทง รวมจำคุก 10 ปี  จำเลยอุทธรณ์ ขอให้ศาลยกฟ้องด้วย

ต่อมาวันที่ 5 ก.ย. 61 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาโดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า  ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากยืน  จำเลยยื่นฎีกาอีก 

อย่างไรก็ตามศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกา จึงไม่รับฎีกาของจำเลย ยกคำร้อง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกาไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกา ย่อมทำให้คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว นายฐิติวัชร์ จำเลยจึงต้องรับโทษจำคุก 10 ปี ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.