นครพนมยึดอีก‘หน้ากากอนามัย’ 3 หมื่นชิ้น ซุกลังกระดาษลอบข้ามโขง พักรอนายทุน
19 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจหน่วยงานความมั่นคง นำโดยนายวัลลภ ชุ่ยรักษา นายด่านศุลกากรนครพนม , พ.ต.ท.จีรุฎฐ์ พิมพา รอง ผกก.สภ.เมืองนครพนม พร้อมด้วย พ.ต.ท.จตุพร เนวะมาตย์ รอง ผกก.ตม.จว.นครพนม และ พ.ต.ท.ชิษณุ ทองเกื้อ ผบ.ร้อย ตชด.236 , กอ.รมน.นครพนม , ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , ตำรวจน้ำ และทหารเรือ นรข. ร่วมกันตรวจยึดหน้ากากอนามัย จำนวน 11 ลัง จำนวน 33,000 ชิ้น ได้ที่ถนนทางหลวง 212 ช่วงบ้านนาโสก หมู่ 10 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
นายวัลลภ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าตรวจพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณถนนสายนครพนม-ท่าอุเทน ปากทางเข้าหมู่บ้านดังกล่าว จึงสั่งการให้นายณัฎฐ์กัญจักร เกตุสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ พบลังกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดใหญ่ เขียนด้วยอักษรภาษาจีน จำนวน 11 กล่อง วางอยู่บริเวณดังกล่าว
จากการตรวจสอบภายในพบหน้ากากอนามัย ประเภทใยสังเคราะห์ ซุกอยู่ในลังจำนวน 33,000 ชิ้น แต่ไม่พบผู้กระทำผิด จึงตรวจยึดไว้ตรวจสอบหาแหล่งที่มา โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าหน้ากากอนามัยจำนวนนี้อาจถูกลักลอบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยบรรทุกใส่เรือหางยาวข้ามแม่น้ำโขง ก่อนลำเลียงมาพักไว้ที่ถนนสายดังกล่าว เพื่อรอให้นายทุนนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง
สำหรับหน้ากากอนามัยที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ เป็นสินค้าสินค้าที่รัฐบาลควบคุมการจำหน่าย ห้ามกักตุน และลักลอบจำหน่ายเกินราคา แต่ก็ทะลักข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางไปตรวจนับและเก็บรักษาไว้ที่ด่านศุลกากรนครพนม เพื่อเร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี