วันที่ 20 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.เชียงราย พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้จัดให้มีการรับตัวคนไทยที่ตกค้างในประเทศเมียนมา ให้เดินทางกลับประเทศตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยที่ให้เปิดจุดผ่านแดนจำนวน 21 จุดเพื่อรับคนไทยกลับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยในครั้งนี้พบว่านายอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ของเมียนมาเดินทางมาส่งคนไทยด้วย ซึ่งนายประจญ และเจ้าหน้าที่ไทยได้ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งสอบถามแลกเปลี่ยนการรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระหว่างกันอีกด้วย หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการปิดด่านพรมแดน ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา และคงเหลือเพียงจุดเพื่อขนถ่ายสินค้าตรงสะพานแห่งนี้เพียงจุดเดียว
สำหรับคนไทยที่ได้ลงทะเบียนผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกลับเข้ามาทาง อ.แม่สาย พบว่ามีจำนวน 9 คนแต่ได้เดินทางเข้ามาตามกำหนดเวลาเพียงจำนวน 8 คนโดยเป็นชายจำนวน 5 คนและหญิง 3 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับการตรวจและฆ่าเชื้อโรคเบื้องต้นก่อนทำพิธีการเข้าเมืองและถูกนำตัวไปสถานที่กักที่ทางจังหวัดเตรียมไว้ ดูอาการเป็นเวลา 14 วันและในวันที่ 24 เม.ย.63 ยังจะมีคนไทยที่ลงทะเบียนเอาไว้และจะเดินทางกลับมาอีกจำนวน 4 ราย ขณะเดียวกันพบว่าได้มีแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 60 คนที่คงค้างอยู่ในฝั่งไทยและขอเดินทางกลับประเทศ ซึ่งทางการไทยและเมียนมาตกลงจะให้เดินทางกลับ จ.ท่าขี้เหล็ก ด้วยช่องทางเดียวกันนี้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันต่อไป
ทางด้านชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ พบว่ามีผู้ลงทะเบียนขอกลับประเทศไทย จำนวน 2 ราย และเดิมได้ทำเรื่องขอเดินทางกลับในวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่ามีความไม่พร้อมด้านเอกสารจึงขอเลื่อนกลับมาในวันที่ 21 เม.ย.63
ส่วนทางด้านสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่ามีผู้ป่วยรายแรกเป็นชายอายุ 35 ปี ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับการวินิจฉัยว่าหายป่วยแล้ว แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว แต่กลับมีอาการเป็นไข้เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดทางศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขฯจังหวัดเชียงราย ได้มีแถลงการณ์ชี้แจงว่าผู้ป่วยดังกล่าวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 จนจบสิ้นขบวนการรักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และได้อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล ในวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยสภาพร่างกายปกติ ไม่มีไข้ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจ จึงให้ผู้ป่วยได้กักตัวเองที่บ้านและสวมหน้ากากอนามัยรวมทั้งแยกตัวจากครอบครัวและชุมชนต่อเนื่องอีกจนครบ 14 วัน แต่ยังคงให้ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด แต่ปรากฎว่าต่อมาผู้ป่วยมีอาการไข้และไอจึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลดังกล่าว
แถลงการณ์แจ้งผลการตรวจประเมินโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการตรวจทางห้องปฏิบัติการว่า เบื้องต้นพบว่ามีอาการเข้าได้กับโรคปอดอักเสบ โดยเชื้อก่อโรคปอดอักเสบมีความเป็นไปได้จากทั้งเชื้อไวรัสอื่นๆ และแบคทีเรีย ดังนั้นจึงกำลังอยู่ในขั้นตอนส่งตรวจพิเศษอย่างละเอียดเพิ่มเติม โดยที่ทีมแพทย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยยังคงเฝ้าระวังอาการและติดตามการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซ้ำอีกรอบ ทำให้ช่วงนี้ผู้ป่วยยังคงนอนรักษาตัวในห้องแยกโรคของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีการให้ยารักษาตามอาการ จนกระทั่งปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยไม่มีไข้แต่มีอาการไอเล็กน้อย สามารถเดินและช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี