วันที่ 20 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้เชี่ยวชาญ/นักวิชาการจากใน-นอกกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งผู้แทนคณบดีจากคณะแพทย์ หารือเพื่อจัดทำ(ร่าง)ข้อเสนอแนวทางการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด19ในด้านสาธารณสุข เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประชุมทุกฝ่ายเห็นตรงว่าควรมีการเปลี่ยนผ่านจากวิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบันไปสู่มาตรการสร้างความสมดุลทางการประกอบอาชีพและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญคือ
1.หน่วยงานด้านสาธารณสุข ต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการตรวจคัดกรองคนติดเชื้อในประเทศเข้มงวดกับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ มีการกักเฝ้าสังเกตอาการ 14 วันในสถานที่ที่กำหนด การค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น ในชุมชนแออัด
2.คนไทยทุกคน ทุกชุมชน ทุกสังคม ต้องร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการสุขลักษณะ ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อออกจากบ้าน การมีระยะห่างทางกาย งดการชุมนุม กลุ่มเสี่ยงยังควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน
3.ภาคธุรกิจ ต้องประเมินความเสี่ยง และปรับการดำเนินการให้มีความเสี่ยงต่ำ เช่น มาตรการตรวจวัดไข้ เว้นระยะห่างทางกาย การทำความสะอาดมือ การลดจำนวนผู้คนที่มาติดต่อใช้บริการ
4.การปิดบริการหรือกิจการที่มีความเสี่ยงสูง เป็นแหล่งแพร่ระบาดได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบริการทางเพศทั้งตรงและแฝง สนามการพนัน ต้องปิดในระยะยาว สำหรับการปิดกิจการในอนาคต ควรใช้วิธีปิดแบบจำเพาะที่เป็นปัญหา และคงความเข้มข้นของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
และ 5.มีระบบเฝ้าระวังตรวจจับและคาดการณ์ความรวดเร็วของการแพร่ระบาดในระดับพื้นที่และระดับประเทศ เป็นการเตือนและเพิ่มมาตรการหรือผ่อนคลายมาตรการตามบริบทของแต่ละจังหวัดและมีการเฝ้าระวังโดยภาคประชาชน อสม.ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงมาตรการเบื้องต้นที่สามารถปรับได้
ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการได้ทั้ง 5 ส่วนจะค่อยๆเดินไปข้างหน้า โดยใช้ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขดูจังหวัดที่มีการติดเชื้อต่ำ เริ่มจากกลุ่มจังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา (ประมาณ 32จังหวัด) สามารถเริ่มได้ในต้นเดือนพฤษภาคม หรืออาจนำร่องทดลองปลายเดือนเมษายน หลังจากนั้นจึงเริ่มในกลุ่มที่สองคือจังหวัดที่พบผู้ปวยติดเชื้อในพื้นที่แบบประปราย (ประมาณ 38 จังหวัด) ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
สำหรับกลุ่มที่สามคือจังหวัดที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง (ประมาณ 7 จังหวัด ) หากจังหวัดเหล่านี้สามารถลดการระบาดลงมาได้ในระดับต่ำตามเกณฑ์และไม่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ก็ควรให้เริ่มเปลี่ยนผ่านได้ในต้นเดือนมิถุนายน หรืออาจเริ่มก่อนหน้านั้นได้หากควบคุมสถานการณ โดยการขยับมาตรการจะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเสนอในการเปิดกิจการนั้นจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดกลุ่มจังหวัดแยกเป็น 3 กลุ่ม(ข้อมูล ณ วันที่ 14 เมษายน 2563 ) และทยอยให้กิจการในแต่ละกลุ่มจังหวัดเปิดกิจการ
ได้แก่ 1. กลุ่ม 32 จังหวัดที่มีการติดเชื้อระดับต่ำ ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ประกอบด้วย น่าน กำแพงเพชร พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท บึงกาฬ ตราด ระนอง จันทบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สุโขทัย อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครนายก นครพนม พังงา สกลนคร สตูล หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลพบุรี และสระบุรี สามารถเปลี่ยนผ่านได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2563 โดยอาจจะทดลองในช่วงปลายเมษายน ก่อน 3-4 จังหวัดในกลุ่มจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ป่วย
2. กลุ่ม 38 จังหวัดที่มีการพบผู้ป่วยประปรายในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะทยอยเปิดกลางเดือนพฤษภาคม ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี เชียงใหม่ นราธิวาส กระบี่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ชุมพร เชียงราย ตรัง ตาก นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง เพชรบุรี ระยอง ราชบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สงขลา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี และ 3. กลุ่ม 7 จังหวัดที่มีการติดเชื้อต่อเนื่องและไม่มีการระบาดใหญ่ อาจจะเปิดในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นนทบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ ปัตตานี และยะลา
“การเปลี่ยนผ่านจะเป็นแบบระมัดระวัง เพื่อป้องกันการระบาดระลอกที่ 2 โดยให้เกิดความสมดุลความปลอดภัยในการใช้ชีวิต ภาคธุรกิจเดินหน้าได้ แต่ไม่เหมือนเดิมทุกอย่าง เช่น ไม่มีการนั่งรอในร้านตัดผม ไม่มีการสังสรรค์กลุ่มใหญ่ ร้านอาหาร ธุรกิจบริการ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ลดความหนาแน่นของคนใช้บริการ ในอนาคตหากมีความจำเป็นต้องปิดกิจการบางอย่าง ก็จะไม่ทำแบบครอบจักรวาล แต่จะทำเฉพาะจึดที่เป็นต้นตอของการแพร่เชื้อ เพื่อให้ธุรกิจอื่นๆยังดำเนินการต่อไปได้ ทั้งหมดเพื่อให้ทุกคนปปลอดภัย สามารถใช้ชีวิตที่จำเป็นได้และธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ โดยกรอบแนวคิดนี้นายอนุทิน จะนำเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป”นพ.คำนวณกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี