เป็นความหวังเดียว“บอร์ดวัคซีนชาติ”อนุมัติพิมพ์เขียวเพื่อเตรียมความพร้อมให้คนไทยทุกคนเข้าถึง “วัคซีนป้องกันโควิด 19” อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
วันที่ 22 เมษายน 2563 ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติว่า คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบการจัดทำพิมพ์เขียว (Blueprint) เพื่อการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชนไทยตามข้อเสนอของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายให้มีวัคซีนใช้ในประเทศไทยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และควรวางแผนเพื่อผลิตวัคซีนในประเทศ เป็นหนทางที่จะได้วัคซีนใช้รวดเร็วระหว่างการรอการซื้อวัคซีนสำเร็จรูปจากต่างประเทศที่อาจมีคำสั่งซื้อจำนวนมากและมีราคาสูง ซึ่งประเทศไทยเคยมีบทเรียนเมื่อครั้งมีการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 มาแล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะมียุทธศาสตร์และความพยายามในการควบคุมการระบาดให้ดีที่สุดก็ตาม แต่เรารับรู้กันดีว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 น่าจะยืดเยื้อยาวนาน และสถานการณ์การระบาดจะจบลงได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อมีสัดส่วนของประชากรที่มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นมากพอหรือที่เรียกว่า"ภูมิคุ้มกันหมู่"(herd immunity) ดังนั้น ในระหว่างนี้วัคซีนจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ซึ่งหลายประเทศรวมทั้งหน่วยงานในไทยต่างทุ่มเทสรรพกำลังและเร่งทำการวิจัยและพัฒนาวัคซีนกันอย่างเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดทำพิมพ์เขียวฉบับนี้เป็นกรอบนโยบายให้เกิดการบูรณาการประสานงานสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนในประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายการเข้าถึงวัคซีนให้ทันท่วงทีและสร้างขีดความสามารถของประเทศในการพัฒนาผลิตวัคซีนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นคงยั่งยืน เพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเอง โดยดำเนินการทั้ง 2 ยุทธศาสตร์ไปพร้อมกัน คือ ยุทธศาสตร์การนำวัคซีนต้นแบบที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศมาทดสอบในประเทศไทยและขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิต และยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาวัคซีนต้นแบบในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จนถึงการผลิตวัคซีน
“หากจะมีการคิดค้นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ได้สำเร็จ ประชาชนคนไทยต้องเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อหลีกเลี่ยงการป่วย การเสียชีวิตและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เป็นโจทย์สำคัญที่ท้าทายของพิมพ์เขียวการเข้าถึงวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ของคนไทยฉบับนี้” ประธานบอร์ดวัคซีนแห่งชาติ ระบุ
และว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในการพัฒนาวัคซีน เพราะหลังการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ 2009 ประเทศไทยได้ลงทุนและมีความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนหลายด้าน มีปัจจัยพื้นฐานสำคัญเพียงพอที่จะลงทุนและทุ่มเทสรรพกำลังอย่างจริงจังในการพัฒนาวัคซีนเอง พร้อมทั้งทำความร่วมมือกับนานาชาติเพื่อร่วมกันวิจัยพัฒนา ให้ได้วัคซีนเพื่อหยุดยั้งการระบาดในครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี