ศบค.ยกผู้เสียชีวิต‘โควิด’รายที่50บทเรียนล้ำค่า เปิดเกมรุกคัดกรองในชุมชน
23 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,839 ราย หายป่วยแล้ว 78 ราย รวม 2,430 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ซึ่งเป็นรายที่ 50 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 78 ปี มีโรคประจำตัว เป็นโรคหลอดเลือดสมอง เข้ารักการรักษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีอาการทางเดินปัสสาวะอักเสบ ต่อมาวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา มีอาการไข้ ปอดบวม จึงส่งตรวจหาเชื้อพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา มีอาการแย่ลง และเสียชีวิตในวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และระบบหายใจล้มเหลว
“สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต 50 รายนั้น เป็นบทเรียนที่มีค่า ที่เราต้องเรียนรู้ถึงโรคนี้ ผู้ที่ติดเชื้อมากสุดคือวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน แต่ไม่ได้เสียชีวิตมากที่สุด คนติดเชื้อน้อย แต่เสียชีวิตมาก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า เดือนนี้เข้าเดือนที่ 4 ของการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นยกที่ 4 ต้องยืนยาวอีก 12 ยก ต้องเก็บแรงดีๆ การ์ดอย่าตกแม้แต่นิดเดียว เราทำคะแนนได้อย่างดี ทำคะแนนทุกยกอีกยาว บางประเทศการ์ดตกน็อกไปแล้ว ตัวเลขทะยานขึ้นไปหลักพัน และจะขึ้นหลักหมื่น
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 6 มีนาคม-17 เมษายน 2563 มีการตรวจเชื้อในคลินิกใน กทม.แบบตั้งรับ บางช่วงมีคนเข้ามาตรวจ 200 คน บางช่วง 900 คน ซึ่งพบตัวเลขติดเชื้อแตกต่างกัน จากคนที่เข้ามาตรวจ 277 คน เจอเพียง 15 คน บางช่วง 998 ราย เจอเพียง 46 ราย หรือบางช่วง 666 ราย เจอเพียง 14 ราย ดังนั้นการตั้งรับอย่างเดียวคงไม่ถูกต้อง จึงมีการปรับระบบเชิงรุกในชุมชน เพื่อตรวจเชิงรุกในชุมชนหาผู้ป่วยกลุ่มเฉพาะทั้งแสดงอาการและไม่แสดงอาการ
“ใน กทม.เข้าไปที่ชุมชนแออัด 2 แห่ง คือ ที่บางเขน และคลองเตย เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนเชิงนโยบาย ตรวจไปแล้ว 1,876 ราย แต่พบเพียง 1 ราย จึงมีคำถามว่าทำไมตัวเลขน้อยลง อาจเป็นไปได้ว่าทุกท่านดูแลสุขภาพอย่างดี ตอนนี้เป็นช่วงลงของการพบเชื้อ ทำให้เจอน้อย แต่เรายังไม่หยุด กทม.ต้องหาเพิ่มขึ้น เป็นนโยบายเชิงสาธารณสุขที่จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น” โฆษก ศบค. กล่าว
สำหรับสถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อจำนวน 2,634,529 ราย เสียชีวิต 184,021 ราย และประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อจำนวน 848,115 ราย เพิ่มวันเดียว 30,163 ราย ขณะที่ไทยยังอยู่ในอันดับที่ 56 ประเทศ ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลาง โดยเฉพาะประเทศอินเดียภาพรวมยังพุ่งน่าเป็นห่วง
ทั้งนี้ วันเดียวกันนี้จะมีคนไทยเดินทางกลับจากประเทศตุรกีจำนวน 55 คน เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และจากประเทศมาเลเซียอีก 144 คน ส่วนในวันที่ 24 เมษายน 2563 จะมีพระภิกษุ แม่ชี และผู้ปฏิบัติธรรม เดินทางทางกลับจำนวน 171 ราย โดยได้มีการขออนุญาตจากมหาเถรสมาคม (มส.) อนุโลมให้พระภิกษุสามารถจำวัดได้ในสถานที่ที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ 14 วัน และประเทศญี่ปุ่น จำนวน 31 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี