"กรมควบคุมโรค"เผยผลสำรวจพบประชาชน4%ไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อป่วยทางเดินหายใจ หวั่นแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นหรือรับเชื้อเพิ่มในสถานการณ์โควิด-19ยังไม่ยุติ หมอห่วงพฤติกรรมคนไทยแผ่วระวังตัว ระบุถ้าต้อง"Re Lock"หลัง"Un Lock"เครียดกว่ารอบแรกแน่
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภาพรวมวันนี้มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 47 ราย กลับบ้านสะสม 2,594 ราย คิดเป็นร้อยละ 88.77 ของผู้ป่วยทั้งหมด ยังรักษาในโรงพยาบาล 277 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.48 ของผู้ป่วยทั้งหมด) เสียชีวิตรวม 51 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,922 ราย
นพ.โสภณ กล่าวว่า จากจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้อยู่ในช่วงที่ประชาชนเริ่มผ่อนคลายและเริ่มมีการเดินทางพบปะกันมากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้มงวดมาตรการป้องกันโรค การรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ไม่สัมผัสจมูก ปาก หรือขยี้ตา
แต่จากการที่กรมควบคุมโรคได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากของประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ต่อเนื่องจำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งที่ 5 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อมีอาการไข้ และหวัด เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก ประชาชนจะสวมหน้ากากป้องกันการแพร่เชื้อถึงร้อยละ 83 และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้รับเชื้ออีกร้อยละ 12 แต่มีร้อยละ 4 ที่ตอบว่าไม่สวมหน้ากากป้องกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงที่จะแพร่โรคให้คนอื่นได้
"ต้องขอกระตุ้นเตือนสังคม เมื่อคนกลับมาทำงาน พบปะกันมากขึ้น การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเป็นเรื่องที่จำเป็น ต้องทำอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นปราการด่านสุดท้ายในการป้องกันเชื้อออกจากตัวผู้ป่วย รวมทั้งเป็นการป้องกันการรับเชื้อจากผู้อื่น" นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับการออกปฏิบัติการค้นหาผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของสถานพยาบาลเอกชนนั้น ขอความร่วมมือให้ประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เนื่องจากการทำงานไม่ได้สิ้นสุดที่การตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อเท่านั้น เพราะเป้าหมายสำคัญของการคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อ เพื่อนำตัวผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา รวมทั้งต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดมาตรวจด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อและควบคุมพื้นที่ดังกล่าวให้ปลอดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ
ด้าน นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยหลังจากครบรอบการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครบรอบ 1 เดือน ขณะนี้มาถึงทางสองแพร่ง ว่าเราจะ Re Lock หรือ Un Lock ซึ่งพฤติกรรมของประชาชนในระยะหลังในการปฏิบัติตัวตามมาตรการหลักสุขอนามัยเริ่มแผ่วลง ทั้งในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย การเพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคล เป็นต้น ซึ่งในสถานการณ์นี้ขอให้ประชาชนได้ตระหนัก ว่า "We Are What We Do เราจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณ" ซึ่งหากประชาชนคนไทยประมาทหลังทำการ Un Lock แล้วจะทำให้ประเทศต้องกลับมา Re Lock ใหม่อีกครั้ง รับรองได้ว่าคราวนี้จะเครียดกว่าล็อคดาวน์ประเทศรอบแรกแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี