27 เมษายน 2563 เมื่อเวลา 08.00 น. พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ  ผบ.ค.กรม.ทพ.12 (ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) สั่งการให้ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1206 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1206) ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ จนท.ชุดสืบสวน สภ.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 

สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตระเวน และเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา บริเวณแนวชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ พื้นที่ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายปิดช่องทางธรรมชาติสกัดโควิดเข้าไทยตลอดแนวชายแดน ของ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา

ต่อมา ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมลาดตะเวณมาตามตเข็บชายแดนถึงบริเวณท้ายหมู่บ้านโนนพัฒนา ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบกลุ่มบุคคลคาดว่าเป็นแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากกำลังเดินเท้าลักลอบเข้าตะเข็บชายแดนตามช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยแล้ว พยายามหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะท้ายหมู่บ้านโนนพัฒนาฯ 

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าทำการปิดล้อมแล้วบุกเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นแรงงานชาวกัมพูชา จำนวนทั้งสิ้น 25 คน แยกเป็นชาย 15 คน หญิง 10 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ ตรวจสอบไม่พบเอกสารการเดินทางหรือหนังสืออนุญาตทำงานแต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่จึงได้มอบหน้ากากอนามัยให้ชาวกัมพูชาทั้ง 25 คน สวมใส่และจัดระเบียบให้นั่งห่างกันตามมาตรการ เว้นระยะห่างป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคน ก่อนจะคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ชาวกัมพูชาทั้ง 25 คน รับสารภาพว่า ได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยเพื่อจะไปทำงานก่อสร้างที่ จ.สระบุรี จำนวน 19 คน และ ไปทำงานที่ตลาดสี่มุมเมือง อ.รังสิต จ.ปทุมธานี อีก  6  คน โดยไม่มีเอกสารการเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานแต่อย่างใด โดยทั้งหมดอ้างว่าอยู่บ้านในฝั่งเขมรไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้จะอดตายกันแล้วจึงตัดสินใจลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อไปหางานทำ โดยบอกว่าไม่กลัวแล้วโรคโควิด-19 ตอนนี้กลัวอดตายที่สุดแล้ว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสอบสวนทำประวัติ ก่อนนำตัวชาวกัมพูชาทั้ง 25คน ส่งให้ สว.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีต่อไป