เปิดกล้องวงจรปิด ตร.อุดรธานีตามรวบหนุ่มพเนจรหนุ่มสุพรรณบุรีฉกมือถือ รปภ.โรงเรียนชื่อดังอุดรธานี สารภาพเพราะพิษโควิด-19 เดินสมัครงานไม่มีใครรับร้านค้าปิดกันหมด ไม่มีเงินติดตัวสักบาท จึงลงมือก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือไปขาย
วันที่ 28 เม.ย.63 ที่ห้องปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวนจับกุมตัวนายพิศรุจน์ ทองรักษ์ อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 88/383 ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี ในข้อกล่าวหา ”ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน หรือรับของโจร”
พร้อมหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ขณะเดินเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO รุ่น A5 2020 สีขาว ราคา 5,500 บาทของนายวิลัย พิมสะกะ อายุ 54 ปี ชาว ต.กุดสระ อ.เมืองอุดรธานี รปภ.โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ที่วางอยู่บนโซฟาภายในป้อมยามหน้าประตูทางเข้าโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.16 น.วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยจับกุมตัวได้ขณะนอนหลับอยู่ในบริเวณซอยสัมพันธมิตร ต.หมกแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ช่วงเช้ามืดของวันนี้(28 เม.ย. 63) ควบคุมตัวมาสอบสวน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 10.41 น.วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากนายวิลัย พิมสะกะ อายุ 54 ปี รปภ.โรงเรียนสตรีราชินูทิศ นำหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น รูปร่างสูง มัดผมจุกเดินผ่านหน้าป้อมยาม ก่อนเดินย้อนกลับเข้ามาขโมยโทรศัพท์มือถือของตนที่วางอยู่บนโซฟา ภายในป้องยาม ในขณะตนเดินไปปิดไฟส่องสว่างบริเวณกำแพงรั้วด้านหน้าโรงเรียน ประมาณ 10 นาที กลับมาพบว่าโทรศัพท์มือถือหายไป จึงเปิดกล้องวงจรปิดของโรงเรียนดูพบว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยไป จึงนำภาพกล้องวงจรปิดมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายและทรัพย์สินกลับคืนมาให้ด้วย
ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายพิศรุจน์ ทองรักษ์ คนร้ายให้การรับสารภาพว่า เดิมทีตนเป็นชาว จ.ขอนแก่น และเป็นคนขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปจริง ตามหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพตำหนิรูปพรรณคนร้ายได้อย่างชัดเจน ส่วนสาเหตุเพราะตกงานมาเกือบ 1 ปี ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน หลังจากมีปัญหากับพ่อเลี้ยงที่ จ.สุพรรณบุรี จึงหนีออกจากบ้านนั่งรถไฟร่อนเร่พเนจร ไปเรื่อยๆ ตั้งใจจะมาหาสมัครงานทำที่เมืองอุดรธานี แต่ช่วงนี้ไม่มีนายจ้างรับเข้าทำงานเพราะส่วนใหญ่ร้านค้าพากันหยุดเนื่องจากไวรัสโควิด จึงตัดสินใจก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปขายในราคา 300 บาท ใช้จ่ายไปแล้ว 200 บาท จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบเคยถูกจับดำเนินคดีแต่อย่างใด ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี