“สตม.” โดย “ตม.จว.ภูเก็ต” บูรณาการ ขยายผลจับ “แก๊งค้ามนุษย์” ลวงเด็กเขมรขายแรงงานเร่ขายแว่นตาหาดป่าตอง ยอดไม่ถึงโดยทุบตี หวดด้วยไม้แขวนเสื้อ
29 เมษายน 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด. ปฏิบัติราชการ สตม. , พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 (รอง ผบก.ตม.6) แถลงผลการจับกุมตามหมายแก๊งกัมพูชา สมคบค้ามนุษย์ 3 ราย
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต (ตม.จว.ภูเก็ต) ได้รับการติดต่อให้เข้าช่วยเหลือ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สัญชาติกัมพูชา (ไม่มีหนังสือเดินทาง) ซึ่งถูกกลุ่มเครือข่ายบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา คือ กลุ่ม MS.SREYNY กับพวกรวม 3 คน ชักชวนเข้ามาจากประเทศกัมพูชา เพื่อให้ลักลอบเข้าเมืองมาทำงานเร่ขายแว่นตาให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่หาดป่างตอง ต.ป่าตอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยใช้วิธีมอบเงินให้แก่ผู้ปกครอง ด.ช.เอ เดือนละ 3,000 บาท และให้ ด.ช.เอ ขายแว่นตาให้ได้วันละ 3,000 บาท เป็นอย่างน้อย หากวันใดขายได้ไม่ถึงยอดก็จะถูกด่า หรือถูกทุบตีด้วยไม้แขวนเสื้อ
กระทั่ง ด.ช.เอ ไม่อยากทำงานกับกลุ่ม MS.SREYNY แล้ว จึงเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือจาก ตม.จว.ภูเก็ต หลังจากได้รับตัว ด.ช.เอ ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต ได้สืบสวนหาตัว MS.SREYNY แต่พบว่า MS.SREYNY ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ไปยังประเทศกัมพูชาในวันเดียวกัน (12 ธันวาคม 2562) เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดเรื่อยมา ในส่วนของ ด.ช.เอ ทาง ตม.จว.ภูเก็ต ได้นำตัวเข้าสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ จ.ภูเก็ต และนำเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยประสานพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.6 เข้าทำการสอบสวน และขอศาลออกหมายจับ ผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย คือ MS.SREYNY สัญชาติกัมพูชา, นายเชน สัญชาติกัมพูชา และนายเล็ก สัญชาติเวียดนาม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุด ศพดส.ตร. , บก.ปคม. ได้สัมภาษณ์และขยายผลจาก ด.ช.เอ ทราบว่า ยังคงมีกลุ่มเครือข่ายซึ่งกระทำผิดลักษณะเดียวกันอีก จึงร่วมกับ ตม.จว.ภูเก็ต และ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ขยายผลและออกหมายจับ MR.NOG สัญชาติกัมพูชา และ นางสาลี หรือ น.ส.สุพัตรา สัญชาติเวียดนาม ตามหมายจับศาลอาญา จำนวน 2 คน และเข้าทำการจับกุมได้เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 และจากการตรวจค้นบ้านพักใน ซ.พระบารมี 1 ต.ป่าตอง อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยสามารถจับกุมตัวคนต่างด้าว จำนวน 5 คน ได้แก่ นายเพชร,นางจันทา, นายแก้ว, นางเลียะ และ นางคุนที ซึ่งได้จับกุมในความผิดฐาน เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้พบเด็กชาวกัมพูชาอยู่ในความดูแลของ ทั้ง 5 ราย อีกจำนวนหนึ่ง
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง ได้ดำเนินการนำตัวเด็กที่พบเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และพบว่ามีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยมี นางจันทา, นายแก้ว, นางเลียะ เป็นผู้กระทำผิด จึงได้ยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต ในความผิดฐาน “ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานเด็กหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล”
จากนั้นวันที่ 20 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้นำหมายจับดังกล่าวมาประสานงาน ตม.จว.ภูเก็ต เพื่อจับกุมตัว นางจันทา อายุ 27 ปี สัญชาติกัมพูชา , นายแก้ว อายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา และ นางเลียะ อายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี