โจรใต้เหิมกราดเอ็ม1
พ.ต.ต.’ดับ!
ฉกปืนติดมือไปด้วย
ปัตตานีเดือดไล่ฆ่าดะ
ยิงนายกอบต.โคกโพธิ์
โพลล์ชี้เจรจาBRNไร้ผล
โจรใต้ก่อเหตุร้ายรายวันอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายยังเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของภาครัฐ โดย เวลา 7.50 น. วันที่ 19 เมษายน ร.ต.ท.พีรวิชย์ ไชยขาญยุทธิ ร้อยเวร สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันบริเวณสามแยกหน้ามัสยิด ม.5 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จึงนำกำลังตำรวจและทหาร รีบรุดไปตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ปลอกกระสุนเอชเค
ปลอกกระสุนปืน 9มม.และปลอกอาวุธปืนกล็อก ตกเกลื่อนถนนกว่า 50ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างที่เกิดเหตุ 80เมตร พบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีเขียวอ่อน ป้ายแดง ทะเบียน ศ 9369กรุงเทพมหานคร เปิดไฟเลี้ยวขวาค้างอยู่ สภาพชนอัดติดเสาไฟฟ้า หน้ารถยุบและมีรอยกระสุนปืนพรุนทั้งคัน ในรถพบกองเลือดและซองอาวุธปืนกล็อก ส่วนปืนหายไป ผู้ถูกยิงคือ พ.ต.ต.เนรมิตร ชูโรจน์ สารวัตรสืบสวน สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนสงครามที่ตลำตัวหลายสิบนัด เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา
รัวถล่มสารวัตรปัตตานีดับ
จากกการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตออกไปสืบหาข่าวในพื้นที่ตามลำพัง ระหว่างทางเป็นถนนตัดสามแยก จึงชะลอความเร็ว เป็นจังหวะที่คนร้าย 4คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตามมาใช้ปืนยิงใส่ พ.ต.ต.เนรมิต ทันที เมื่อผู้เสียชีวิตรู้ว่าถูกไล่ยิง จึงเร่งเครื่องขับหลบหนี แต่คนร้ายเร่งเครื่องไล่ประกบยิง ทำให้รถยนต์เสียหลักพุ่งตกข้างทางชนกันเสาไฟฟ้า ก่อนคนร้ายจะกระหน่ำยิงซ้ำ จากนั้นลงไปหยิบปืนของผู้เสียชีวิตหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.บุญสิน พาดกลาง ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่22 ระดมกำลังกว่า 100นาย ปิดล้อมตรวจค้นทุกเส้นทางเข้าออกตำบลเขาตูม เชื่อคนร้ายน่าจะกบดานในพื้นที่ ซึ่งคนร้ายน่าจะเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาตลอด อีกทั้งก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนว่า กลุ่มคนร้ายจ้องก่อเหตุเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อสร้างสถานการณ์
ยิงชาวบ้านตายหน้ามัสยิด1
ต่อมา เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงชาวบ้านหน้ามัสยิดนูรดีน บ้านปาเซปูเต๊ะ หมู่2 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ นายรอซะ ตาเยาะ อายุ 48ปี ถูกกระสุนบริเวณปาก 3นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยเหตุเกิดขณะผู้ตายเดินออกจากมัสยิดหลังจากละหมาดวันศุกร์เพื่อกลับบ้านพักได้มีคนร้าย 2คน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ100 สีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิงใส่ก่อนหลบหนีไป
ส่องนายกอบต.โคกโพธิ์ตาย
เวลา 16.10น.เกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์กระบะไล่ยิง นายชาย ขาวทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่ง รพ.โคกโพธิ์ เหตุเกิดบนถนนทางหลวงสายโคกโพธิ์-ลำไพร ม.2 ต.โคกโพธิ์ จากนั้น เวลา 16.50น.นายชาย ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตลง เหตุเกิดขณะที่ นายชาย นั่งรถออกจาก อบต.โคกโพธิ์ โดยถูกคนร้ายใช้ปืนสงครามกระหน่ำยิงจนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
กระหน่ำฐานทหารยะลาเจ็บ
ส่วนกรณีคนร้ายได้ใช้ปืนซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.1731 หน่วยเฉพาะกิจยะลา15 ซึ่งตั้งฐานอยู่ริมถนนสาย410 ยะลา-เบตง บ้านรานอ หมู่8 ต.ตาเน๊าะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ พลทหารอามือ มาเยอะ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 18เมษายนที่ผ่านมานั้น
เวลา 09.30น.วันที่ 19เมษายน ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ภ.จ.ยะลาและเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่10 เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุยพบว่า บริเวณหน้าฐานมีรอยกระสุนปืน 1 แห่งและบริเวณป้ายของหน่วย 1แห่ง ร.อ.อำนาจ เรือนติ๊บ ผบ.ร้อย ร.1731 ฉก.ยะลา15 เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุกำลังพล 8นาย กำลังตั้งจุดตรวจสกัดหน้าฐานปฎิบัติการ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นสวนยางและเนินสูง ใช้อาวุธปืนยิงใส่หลายนัด ทหารจึงหมอบลงและใช้ปืนยิงตอบโต้นาน 5-10นาที ก่อนคนร้ายจะหลบหนีไป หลังตรวจสอบพบว่า พลทหารอามือ ถูกกระสุนปืนยิงเข้าช่วงไหล่ โชคดีที่สวมเสื้อเกราะ ทำให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
เชื่อฝีมือกลุ่ม”อาบ๊ะ เจ๊ะอาลี”
เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการการะทำของกลุ่ม นายอาบ๊ะ เจ๊ะอาลีกับพวก ซึ่งเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.กรงปินังและอ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุยิงพ่อค้าทุเรียนในพื้นที่ อ.กรงปินัง เมื่อวันที่ 5กุมภาพันธ์2556และวางระเบิดรถบัสทหารขณะกลับจากคัดเลือกทหารที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 3เมษายน2556 รวมทั้งเมื่อวันที่ 28มีนาคม2548 คนร้ายซุ่มยิงรถยนต์กระบะซึ่งเป็นคณะของ พล.ต.ต.ปริญญา ขวัญยืน ผบก.ภ.จ.ยะลา (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นเหตุให้รถเสียหาย แต่ พล.ต.ต.ปริญญา ไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ได้จัดชุดไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว
โพลล์61%ชี้ถกบีอาร์เอ็นไร้ผล
วันเดียวกัน ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยผลสำรวจหาดใหญ่โพล หัวข้อ“ประชาชนคิดอย่างไรกับปัญหาความมั่นคงของรัฐ”โดยร้อยละ61.7 เห็นว่า แนวโน้มปัญหาชายแดนภาคใต้ หลังพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ปัญหาจะเหมือนเดิม ร้อยละ31.9 มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและร้อยละ 6.4 มีแนวโน้มคลี่คลาย ร้อยละ64.2 ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่จะให้ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองแบบพิเศษในรูปแบบมหานครปัตตานี หรือปัตตานีมหานคร ร้อยละ57.9 ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งเขตปกครองแบบพิเศษโดยยึดโมเดลอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซียและร้อยละ46.6 ไม่เห็นด้วยกับการจัดให้เป็นเขตปกครองพิเศษ ร้อยละ59.7 ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกกฎหมายพิเศษ ร้อยละ57.2 ไม่เห็นด้วยกับการถอนทหารออกจากพื้นที่และร้อยละ40.5 ไม่เห็นด้วยกับการใช้กองกำลังท้องถิ่นรดูแลชายแดนภาคใต้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี