นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ พร้อมด้วยศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ ร่วมวางพวงมาลาณ อนุสาวรีย์วีรชนป่าไม้ กรมป่าไม้ เนื่องในวันครบรอบ 84 ปี รำลึกกำเนิด รร.ป่าไม้แพร่1 พฤษภาคม 2479 และศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ ทุกรุ่น ได้พร้อมใจกันจัดพิธีทำบุญตักบาตร บำรุงรักษาต้นไม้ทรงปลูกมอบหน้ากากอนามัยปลูกต้นไม้ รวมทั้งกิจกรรมสาธารณประโยชน์และวิ่ง 20 กม. ตลอดจนขอความร่วมมือพี่น้อง ผองเพื่อน แต่ละรุ่นรวมกันวิ่งให้ครบ 20 กม. (วิ่งแต่ละจังหวัดแล้วเอามารวมกัน ต่างคน ต่างวิ่ง) พร้อมกันทั่วประเทศ !
นายจเรศักดิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากในอดีตประเทศไทยขาดผู้มีความรู้ความสามารถทางวิชาการป่าไม้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศตะวันตกให้ส่งตัวข้าราชการมาช่วยงานด้านป่าไม้ของประเทศ และส่งคนไทยไปเรียนวิชาการป่าไม้ที่ต่างประเทศ จนกระทั้งเมื่อปี พ.ศ. 2458 จึงมีการเปิดสอนวิชาการป่าไม้ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ณ โรงเรียน ข้าราชการพลเรือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในแผนกยันตรศึกษา บริเวณพระตำหนักหอวัง หรือวังวินด์เซอร์ หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่าวังใหม่สระปทุมทำการสอนวิชาการป่าไม้เบื้องต้น หลักสูตร 2 ปี แต่เปิดทำการสอนได้เพียง 3 ปี ก็ต้องเลิกไปเนื่องจากไม่มีผู้สนใจเรียนด้วยเห็นว่าเป็นงานยากลำบากปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้ถูกรื้อถอนปรับเปลี่ยนเป็นสนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาติ
ต่อมาเมื่อบริษัท อีสเอเชียติก จำกัด ได้เลิกสัมปทานป่าไม้และได้มอบอาคาร สถานที่ให้กรมป่าไม้ พระยาพนานุจร (เปล่ง สาครบุตร) อธิบดีกรมป่าไม้ จึงให้ใช้ อาคารบริเวณถนนคุ้มเดิม จังหวัดแพร่ จัดตั้งเป็น “กองโรงเรียนป่าไม้” และมอบให้หลวงวิลาสวันวิท (เมธ รัตนประสิทธิ์) เป็นหัวหน้ากองโรงเรียนป่าไม้คนแรก ทำการเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 กำหนดให้มีการศึกษาด้านวิชาการป่าไม้ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ แก่หลวงวิลาสวันวิทเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ตลอดจนบุคคลภายนอกภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนวนศาสตร์” และต่อมาได้ยกฐานะเป็น “วิทยาลัยวนศาสตร์” จนถึงปี พ.ศ. 2499 จึงได้ จัดตั้งเป็น “คณะวนศาสตร์” และให้ไปสังกัด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานครมาจนถึงปัจจุบัน
จุดแรกกำเนิดและความสำเร็จ กรมป่าไม้ ได้มีนโยบายที่จะพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้มากขึ้น จึงได้เปิดทำการเรียน การสอนหลักสูตร “ประกาศนียบัตรวิชาการป่าไม้” หลักสูตร 2 ปี ขึ้นอีกครั้งโดยได้เปิดโรงเรียนป่าไม้จังหวัดแพร่ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่17 พฤษภาคม พ.ศ.2499 มี นายรัตน์ พนมขวัญ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนป่าไม้คนแรก รับนักศึกษาจำนวน 50 คน จากข้าราชการของกรมป่าไม้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 ได้ขยายจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นเป็น 100 คน ในปี พ.ศ. 2507 ได้มีการเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8ร่วมกับการคัดเลือกข้าราชการของกรมป่าไม้เข้าเป็นนักศึกษาและในปี พ.ศ. 2508 จึงได้เปิดรับบุคคลภายนอกทั้งหมดจากนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาตอนปลายสายวิทย์-คณิต จำนวนรุ่นละ 200 คน จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2536 คณะกรรมการบริหารโรงเรียนป่าไม้ จึงมีมติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2536 ให้ยุติรับนักศึกษาและยกเลิกการเรียนการสอนของโรงเรียนป่าไม้มาจนถึงปัจจุบัน รวมมีนักศึกษาของโรงเรียนป่าไม้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ถึง ปี พ.ศ. 2536 จำนวนทั้งสิ้น 36 รุ่น มีผู้จบการศึกษา รวมจำนวน 6,056 คน
นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ภายหลังที่มีการยุติการเรียนการสอนของโรงเรียนป่าไม้แล้ว ทางราชการจะได้ ปรับเปลี่ยนสถานะหรือรูปแบบของโรงเรียนป่าไม้ไปอย่างไรคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวจังหวัดแพร่ก็ยังคงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “โรงเรียนป่าไม้” อยู่ต่อไปเพราะถือว่าเป็น สถานที่สำคัญที่มีตำนานคู่กับจังหวัดแพร่มาช้านาน และลูกหลานชาวจังหวัดแพร่ รวมทั้ง ลูกหลานจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้สำเร็จการศึกษา ประสบความสำเร็จในชีวิตราชการ และงานด้านอื่นๆ มากมายมาจนถึงปัจจุบัน ท่านอาจารย์รัตน์ พนมขวัญได้บันทึกไว้ในหนังสืออนุสรณ์รุ่น 36 ว่าไว้“ชีวิตในระหว่างเกี่ยวข้องกับโรงเรียนป่าไม้ ให้อะไรหลาย อย่างกับผม โรงเรียนให้อาชีพ ให้เป็นผู้เป็นคนกับเขา สอนให้ลูกผู้ชายรู้ผิด รู้ชอบ มีความสามัคคีมีความกรุณาต่อกัน ครั้งหลังสุดนี้ โรงเรียนถูกสั่งไม่ให้รับนักเรียน โรงเรียนถูกสั่งให้เลิก ใจหาย...รู้สึกเสียดาย...”
สิ่งหนึ่งที่ชาวป่าไม้แพร่ทุกรุ่นได้ให้ความศรัทธาและยึดเหนี่ยวด้านจิตใจมาโดยตลอด คือ “หลวงพ่อพุทธวิชิตมาร”หรือ “พระพุทธวิชิตมาร ประทานสันติสุขสวัสดี ชินสีห์ ธรรมบพิตร”พระคู่เมืองแพร่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานที่ชาวจังหวัดแพร่และประชาชนโดยทั่วไปให้ความเคารพนับถือตั้งสถิตอยู่ภายในโรงเรียน ป่าไม้เป็นสิ่งเคารพบูชาที่จะร้อยใจแห่งความศรัทธาของชาวรั่วเมฆชราให้เป็นหนึ่งเดียวไปชั่วนิรันดร์ นายจเรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่ จ.ลำปาง นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 3(ลำปาง) ได้ทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ พร้อมจัดกิจกรรมวิ่ง-เดิน เว้นระยะห่างใส่หน้ากากอนามัย วัดไข้ ใช้เจลล้างมือตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเนื่องในวันครบรอบรำลึกกำเนิดโรงเรียนป่าไม้แพร่ และบำรุงรักษาต้นไม้ทรงปลูกต้นพิกุล รัชกาลที่ 10 ทรงปลูกไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย. 22 ณ วัดพระธาตุเสด็จ หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านเสด็จอำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ตลอดจนกิจกรรมสาธารณประโยชน์
และเนื่องในวันครบรอบรำลึกกำเนิดโรงเรียนป่าไม้แพร่ ประจำปี 2563 ศิษย์เก่าป่าไม้แพร่จังหวัดนครพนมรวมพลังจัดกิจกรรมบำรุงรักษาต้นไม้ทรงปลูกต้นโพธิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวง รัชกาลที่ 10 ได้ทรงปลูกไว้ เมื่อวันที่ 25 กันยายน2535 เนื่องในโอกาสเสด็จฯแทนพระองค์ เพื่อทรงเปิดศาลหลักเมือง จังหวัดนครพนม”
กิตติพงษ์ ทุนเพิ่ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี