ผญบ.เปิดข้อมูล‘ป้าทองสา’ร่ำไห้หน้าคลัง‘จะอดตายอยู่แล้ว’ จนท.กำแพงเพชรรุดตรวจสอบบ้าน แจงทบทวนสิทธิ์ให้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กำแพงเพชร ว่า จากกรณี “ป้าทองสา ดาหา” ชาวบ้านจาก จ.กำแพงเพชร บุกกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา “ร่ำไห้บอก ท่านประยุทธ์โปรดทราบ จะอดตายอยู่แล้ว โปรดดูแลคนยากคนจนบ้าง”
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ที่ว่าการอำเภอทรายทองทองวัฒนา ต.ทรายทอง อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของป้าทองสา ดาหา อายุ 64 ปี โดยวันนี้นายสมเกียรติ ชื่นอยู่ นายอำเภอทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร , นางสุภาภรณ์ จุลละสุภา คลังจังหวัดกำแพงเพชร , หน่วยงาน พมจ.กำแพงเพชร และหน่วยงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้มีการประชุมหารือแนวทางช่วยเหลือ “นางทองสา ดาหา” อายุ 64 ปี จากกรณีร่ำไห้ที่หน้ากระทรวงการคลัง ไม่ได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาท
นายศรุต ประชุมรักษ์ อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 บ้านหนองชุมใต้ ต.ทุ่งทราย อ.ทรายทอง จ.กำแพงเพชร เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวป้าทองสาไปอยู่ กทม. เกือบ 10 ปีแล้ว มีลูกทั้งหมด 4 คน คือ ลูกสาวคนโตมีสามีเป็นชาวต่างชาติ , ลูกขายคนโต ทำงานบริษัทใน กทม. แต่หยุดงาน 2 เดือน ได้สิทธิประกันตน (ประกันสังคม) , ลูกขายคนเล็กทำงาน เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และลูกสาวคนสุดท้อง เป็นนักศึกษาฝึกงานในกรุงเทพฯในขณะนี้
ส่วนกรณีที่ป้าทองสา เป็นหนี้กับ ธ.ก.ส.นั้น จากการตรวจพบว่าเป็นเพียงลูกค้าที่เปิดบัญชีกับธนาคารเท่านั้น ไม่มีหนี้สินกับธนาคาร ธ.ก.ส.แต่อย่างใด ส่วนบ้านที่ จ.กำแพงเพชร นั้น เป็นบ้านที่ลูกสาวคนโตได้สร้างไว้ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว กว้างประมาณ 8 เมตร ยาวประมาณ 16 เมตร หลังคามุงกระเบื้อง ซึ่งห่างจากบ้านญาติประมาณ 10 เมตร ติดต่อกัน และส่วน “นางทองสา ดาหา” ช่วงเทศกาลจะกลับมาเพียงปีละ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่ทำงานที่ กทม. ไม่ค่อยได้กลับ ทราบเพียงว่านางทองสา ดาหา ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปและเลี้ยงหลานอยู่บ้าน ส่วนสามีขายลูกชิ้นที่ กทม.
จากการตรวจสอบของ นางสุภาภรณ์ จุลละสุภา คลังจังหวัดกำแพงเพชร พบว่า นางทองสา ดาหา ได้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5 พันบาทจริง แต่ได้มีการกดยกเลิกเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยา และอาจไม่ทราบข้อมูลมาก่อนว่ามีการทวนสิทธิ์การเยียวยารอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ทางคลังจังหวัดกำแพงเพชร ,นายอำเภอทรายทองวัฒนา ,และผู้ใหญ่บ้าน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนางทองสา ดาหา เพื่อสอบถามข้อมูลและอธิบายขั้นตอนการรับเงินเยียวยา พร้อมได้ทำการช่วยเหลือยืนยันในการขอทบทวนสิทธิ์ให้กับนางทองสา ดาหา อีกครั้งเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นได้เดินทางไปที่บ้านของนางทองสา ดาหา ที่หมู่ 13 บ้านหนองนกชุม เพื่อพูดคุยกับญาติพี่น้องเพื่อทำความเข้าใจในการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยได้พบกับน้องสาวและมารดาของนางทองสา ดาหา ที่อาศัยอยู่บ้านใกล้เคียงกัน เพื่อให้คลายความกังวลใจ ส่วนบ้านของนางทองสา ดาหา ที่ลูกสาวได้สร้างไว้ถูกปิด ไม่มีผู้อยู่อาศัย
นางกนกพร แก้วมะณี อายุ 52 ปี น้องสาวของนางทองสา ดาหา เล่าว่าเห็นข่าวก็ตกใจมากที่พี่สาวของตนเองออกไปร้องเรียนขอรับสิทธิ์เยียวยาในครั้งนี้ ยังโทร.คุยกันอยู่ว่าทำไมไม่ไปแบบธรรมดา ซึ่งนางกนกพร ผู้เป็นน้องสาว ได้กล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ที่พี่สาวของตนเองพูดจาไม่ดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องลงพื้นที่เดือดร้อนกันใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมภายหลังจากที่ทราบว่า ป้าทองสา ขายลูกชิ้นกับสามีอยู่ที่ย่านถนนอัมรินทร์ 36 ซอยสุวานินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ มีรายได้การขายลูกชิ้นวันละ 400 บาท ป้าทองสา มีลูก 4 คน ลูกคนแรกและคนที่ 3 ทำงานบริษัทเอกชน ลูกคนที่ 2 ตกงาน และลูกคนที่ 4 เรียนปริญญาตรี โดยลูกสาวคนโตสร้างบ้านไว้ในอำเภอทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร ปัจจุบันบ้านถูกปิดไว้ไม่มีใครอยู่ ซึ่งครอบครัวมีภูมิลำเนาอยู่กำแพงเพชร แต่นานๆครั้งจะกลับไปที่บ้านเกิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี