วันที่ 7 พฤษาคม 2563 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย, พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ ชุดปฎิบัติการ 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม 1. นายศราวินนายศราวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.79/2563 ลง 9 เม.ย.2563 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกง 2. น.ส.ทิพวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.78 /2563 ลง 9 เม.ย.2563 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกง สถานที่จับกุม นายศราวินฯ บริเวณริมถนนสาธารณะ ม.2 ต.สร้อยทอง อ.ตาคลี จว.นครสวรรค์ สถานที่จับกุม น.ส.ทิพวัลย์ฯ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 164/1 หมู่ 1 ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี
พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเมื่อประมาณปลายปี 2561 นายศราวินฯ และ น.ส.ทิพวัลย์ฯ สองสามีภรรยา ได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนให้ลงทุนในระบบได้ผลตอบแทนสูง เช่น หากลงทุน 1,000 บาท จะได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 1,500 บาท ซึ่งเงินที่ลงทุนมานั้น ทางผู้ต้องหาได้นำไปลงทุนเล่นแชร์ทางเฟสบุ๊คกับแชร์แม่มณี อีกต่อหนึ่ง ซึ่งได้ค่าตอบแทน 1,900 บาท โดยทั้งคู่จะได้ส่วนต่างอยู่ 400 บาท ต่อมาทางผู้เสียหายได้ลงเงินทุนไปจำนวน 100,000 บาท เดือนแรกได้เงินคืนมา 150,000 บาท เห็นว่าได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงกัน จึงได้ชักชวนญาติพี่น้องมาลงทุนต่อรวมเงิน 1,100,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนบาท) และยังไม่ได้ผลตอบแทน ซึ่งได้พยายามทวงถามทางสามีภรรยาคู่นี้ แต่ก็ยังบ่ายเบี่ยงบอกยังรอทางเครือข่ายโอนเงินมา ต่อมาผู้เสียหายเห็นในข่าวว่ามีการจับเครือข่ายแชร์แม่มณีฯได้ ความเสียหายหลายล้านบาท จึงคิดว่าตัวเองถูกหลอก จึงได้พยายามทวงเงินจากนายศราวินฯ และ น.ส.ทิพวัลย์ฯ สองสามีภรรยา เรื่อยมา แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และศาลอนุมัติออกหมายจับสองสามีภรรยาดังกล่าว
จนกระทั่งวันที่ 6 พ.ค.2563 ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป. ได้สืบทราบว่านายศราวินฯ และ น.ส.ทิพวัลย์ฯ สองสามีภรรยา (ผู้ต้องหา) หลบหนีมาทำงานที่ อ.ตาคลี จว.นครสวรรค์ จึงได้เข้าทำการสืบสวนและเข้าทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน ดำเนินคดี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่ได้เป็นคนเอาเงินผู้เสียหายไป แต่ยอมรับว่านำเงินไปลงทุนต่ออีกทอดนึง ในขณะที่เท้าแชร์ถูกจับดำเนินคดี ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างฟ้องร้องขอคืนความเสียหายจากทรัพย์ที่ยึดมาได้ ซึ่งตนก็เดือดร้อนเหมือนกัน แต่พอถูกทวงถามหนักก็หลบหนีออกมาจากพื้นที่ จว.นครปฐม คาดว่าหลบหนีมาทำงานหาเงิน ถ้าได้เงินแล้วจะนำไปคืนให้ผู้เสียหายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี