นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายจตุพรบุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ ป้องกันและรักษาทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าอย่างเต็มที่ และให้ดำเนินเด็ดขาดกับผู้ค้า และล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ
โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ รายงานเข้ามาว่า ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีสิทธิศักดิ์ ฉันสิมา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ 6 (ศร.2 (ดงใหญ่)- ศร.11 (เนินสวรรค์) ร่วมกันตั้งจุดสกัดชั่วคราวบริเวณป่าองบะ พิกัด 0498236 E 1622456 พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สี่ประตู สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 5008 กาญจนบุรี วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่พบกล่องโฟร์ม รวมทั้งถังน้ำแข็ง และอื่นๆอยู่เต็มกระบะ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาข้างต้น
จากการตรวจค้นพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 40 ตะกวดป่า น้ำหนักรวม 9.2 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในถังแช่น้ำแข็งสีส้ม เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายถาวร กาวิระเดช อายุ 62 ปีอยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 2 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ผู้กระทำผิด พร้อมยึดรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อดำเนินคดี ในข้อหา มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองครองตะกวดป่าลำดับที่ 40 ไว้โดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 17 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันเดียวกันตนได้รับรายงานจากนายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ว่า คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้จับกุมตัวนายมนัส แก้วมณี และ นายนพดล สุนทราลัย ชาวบ้านบ้านบนเขาแก่งเรียน หมู่ 3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้ที่ป่าบ้านลำดวนพิกัดที่ 0505543 E 1592902 N ของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐจำนวน 2 กระบอกและอุปกรณ์อื่นๆอีก 23 รายการ โดยขณะคณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมปรากฎว่านายนพดล สามารถวิ่งหลบหนีไปได้ แต่เปลี่ยนใจย้อนกลับเข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ในภายหลัง จึงหน้าที่จึงนำตัวบุคคลทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์
ดำเนินคดีในข้อหาเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้ปฎิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานฯกำหนดตามมาตรา 20 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ร่วมกันนำอาวุธปืนเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 19 (7) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และข้อหามีอาวุธปืน เถื่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 7 ทวิ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ระวางโทษจำคุก1ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 พันบาทถึง 2 หมื่นบาท
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยต่อว่า ขอฝากเตือนไปถึงกลุ่มบุคคลที่มีแผนจะเข้าไปล่าหรือซื้อสัตว์ป่าว่า ปัจจุบันกฎหมายอุทยานฯฉบับใหม่นั้นมีบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดนั้นรุนแรงมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาแล้วหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบุคคลในพื้นที่ทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ของเราได้ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ไม่สามารถละเว้นได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 คดี จะเป็นคดีสุดท้าย และขอให้ชาวบ้านในพื้นที่หันหน้ามาร่วมกันปกปักรักษา ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าทุกชนิด เอาไว้เพื่อให้เด็กและเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี